บล.ทรีนีตี้:
ธนาคารทหารไทยธนชาต – TTB
Upside/Downside +8% / Median Consensus 1.80 บาท
มอง Upside ค่อนข้างจำกัด
- คาดกำไร 4Q66 ที่ 4,452 ล้านบาท อ่อนตัว 6%QoQ แต่ยังเติบโต 16%YoY
- คาดสินเชื่ออ่อนตัว QoQ ขณะที่ NIM ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย
- รายได้ค่าธรรมเนียมอาจเติบโตจากการขายประกันและกองทุนในช่วงปลายปี
- คาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลดลงเล็กน้อยจาก 3Q66 ที่มีการตั้งสำรองส่วนเกิน
- ปี 67 คาดกำไรยังเติบโตได้ แม้มีแรงกดดันจากต้นทุนเงินฝาก แต่การปรับสัดส่วน สินเชื่อไปในกลุ่ม High Yield มากขึ้นจะช่วยชดเชยได้บ้าง
- คงราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 1.80 บาท แนะนำเพียง “ถือ”
คาดกำไร 4Q66 อ่อนตัวตามฤดูกาล
เราคาดกำไร 4Q66 ที่ 4,452 ล้านบาท อ่อนตัว 6%QoQ แต่ยังเติบโต 16%YoY โดยคาดสินเชื่ออ่อนตัวในช่วงปลาย จากการชำระคืนสินเชื่อหมุนเวียนระยะสั้นของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ขณะที่ NIM คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าในฝั่งดอกเบี้ยสินเชื่อจะยังปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย แต่การ Repricing ของดอกเบี้ยเงินฝากประจำเริ่มกดดัน ทำให้คาดว่า NIM ใน 4Q66 ที่ยังเพิ่มขึ้นจะเป็น Peak และจะเริ่มลดลงเล็กน้อยใน 1Q67 ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยคาดปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 10%QoQ โดยหลักเป็นการเพิ่มขึ้นจากค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์กองทุนและประกันในช่วงปลายปี ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดเพิ่มขึ้นราว 8%QoQ ตามฤดูกาล ทั้งนี้เราคาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจลดลงเล็กน้อย QoQ เนื่องจากในไตรมาสก่อนมีการ Write-off และตั้งสำรองส่วนเกิน
ต้นทุนเงินฝากจะเริ่มกดดันในปี 67
เราคาดกำไรปี 2567 จะเติบโตได้ราว 10%YoY แม้ว่าจะเริ่มเห็นแรงกดดันจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำบ้าง แต่การปรับสัดส่วนสินเชื่อไปกลุ่ม High Yield อาจทำให้ภาพรวม NIM ทั้งปีจะอ่อนตัวลงไม่มากจากปี 2566 ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้คาดลดลงจากการตั้งสำรองส่วนเกิน และแนวโน้มคุณภาพหนี้ที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปี 2566
มอง Upside ค่อนข้างจำกัด
เราคงราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 1.80 บาท อิง PBV 0.74 เท่า โดย Upside จากราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างจำกัด เราจึงแนะนำเพียง “ถือ”
ความเสี่ยง: การชะลอตัวของเศรษฐกิจ/ คุณภาพหนี้ที่แย่ลง