บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Sappe (SAPPE)
ผลประกอบการจะกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้งใน 1Q-3Q67
TRADING (Maintain)
TP upside (downside) -7.0%
Close Jan 9, 2024 Price (THB) 89.25
12M Target (THB) 83.00
Previous Target (THB) 83.00
What’s new?
- เราคาดกำไรปกติใน 4Q66 ที่ 190 ลบ. (-41.6% QoQ, +39.6% YoY) ชะลอตัวลง QoQ จากการขนส่งที่ล่าช้า ประกอบกับเป็นช่วง Low season แต่ยังเติบโต YoY จากอุปสงค์ของสินค้า Mogu Mogu ทั่วโลกที่สูงขึ้น ขณะที่ GPM คาดชะลอตัว QoQ จาก U-rate ที่ลดลง แต่สูงขึ้น YoY จากราคาน้ำตาลโลกและ PET Resin ที่ปรับตัวลง
- คาดกำไรปกติจะกลับมาทำ New High ใน 1Q67 จากการเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของไทยและภูมิภาคเอเชีย
Our view
- แนวโน้มกำไรปกติปี 2567 คาดเติบโตต่อแม้มีฐานสูงจากปี 2566 โดยการเติบโตจะมาจากภูมิภาคยุโรปเป็นหลัก เนื่องจาก Demand ในปัจจุบันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สามารถครอบคลุมช่องทาง MT ได้เพียง 30% ของช่องทางทั้งหมด จึงมองว่ายุโรปยังมีพื้นที่อีกมากในการเติบโต
- คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 83.00 บาท และคงคำแนะนำ “TRADING” เชิงกลยุทธ์ หากมีสถานะอาจพิจารณา Lock-in-profit และกลับเข้ามาสะสมเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง
กำไรใน 4Q66 คาดชะลอตัวลง QoQ แต่ยังเติบโต YoY
เราคาดกำไรปกติใน 4Q66 ที่ 190 ลบ. (-41.6% QoQ, +39.6% YoY) ชะลอตัวลง QoQ จากการขนส่งที่ล่าช้า เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบในทะเลแดง ส่งผลให้คำสั่งซื้อบางส่วนถูกเลื่อนไป 1Q67 แทนประกอบกับเป็นช่วง Low season ของธุรกิจส่งออกที่ลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อช่วงปลายปี แต่คาดยังเติบโต YoY จากคำสั่งซื้อสินค้าหลัก Mogu Mogu ที่สูงขึ้น ขณะที่ GPM คาดอยู่ที่ 42.8% ลดลง QoQ จากอัตราการใช้กำลังการผลิต (U-rate) ที่ลดลง แต่สูงขึ้น YoY จากการรับรู้การปรับลงของราคาน้ำตาลโลก และ PET Resin ส่วน SG&A to sales คาดสูงขึ้นเป็น 26.8% จาก 23.4% ใน 3Q66 เนื่องจากการทำการตลาดในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งหากกำไรใน 4Q66 ออกมาตามคาด กำไรปกติทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ 1,124 ลบ. (+68.8% YoY) ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา
คาดกำไรปกติกลับมาทำ New High ได้ตั้งแต่ 1Q67 เป็นต้นไป
เราคาดกำไรปกติจะกลับมาทำ New High อีกครั้งใน 1Q67 หนุนจาก 1) การเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย ประกอบกับผลกระทบจากเอลนีโญส่งผลให้อากาศร้อนกว่าปกติ หนุนความต้องการสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม 2) การเริ่มรับรู้รายได้จากการนำเข้ากาแฟเพื่อสุขภาพแบรนด์ Power Root เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และ 3) การรับรู้รายได้จากออเดอร์ที่เลื่อนมาจาก 4Q66 ขณะที่ GPM คาดอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 44% จาก Urate ที่สูงขึ้น ประกอบกับการรับรู้การปรับลงของราคาน้ำตาลโลกและเม็ดพลาสติก นอกจากนี้เรามองว่ากำไรปกติจะสามารถทำ New High ได้ต่อเนื่องถึง 3Q67 เนื่องจากไตรมาส 2 เป็นช่วงฤดูร้อนของภูมิภาคเอเชีย และไตรมาส 3 เป็น High Season ของธุรกิจที่เป็นช่วงฤดูร้อนของยุโรป นอกจากนี้บริษัทยังมีการขยายกำลังการผลิตราว 25% โดยจะเริ่ม Commercial Run ในช่วงปลาย 1Q67 ซึ่งปัจจุบันเริ่มคำสั่งซื้อแล้วในบางส่วน แต่อาจต้องติดตามค่าระวางเรือที่อาจปรับตัวสูงขึ้นแต่ในเบื้องต้น เรามองว่าบริษัทจะสามารถชดเชยได้จากการปรับขึ้นราคาขายของลูกค้าบางส่วนเพื่อลดผลกระทบ
กำไรปกติในปี 2567 คาดเติบโตต่อแม้มีฐานสูงในปี 2566
เราคาดกำไรปกติในปี 2567 ที่ 1,345 ลบ. (+14.8% YoY) เติบโตทำระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อ แม้ฐานสูงในปี 2566 โดยการเติบโตจะมาจากภูมิภาคยุโรปเป็นหลัก เนื่องจาก Demand ในปัจจุบันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่สามารถครอบคลุมช่องทาง MT ได้เพียง 30% ของช่องทางทั้งหมด จึงมองว่ายุโรปยังมีพื้นที่อีกมากในการเติบโต นอกจากนี้บริษัทยังมีการเข้าไปทำการตลาดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เราคาดรายได้จากยุโรปในปี 2567 ที่ 1,800 ลบ. (+60.0% YoY) ขณะที่ GPM คาดสูงขึ้นเป็น 44.2% หนุนจากราคาวัตถุดิบหลัก ทั้งราคาน้ำตาล และ PET Resin ที่คาดปรับตัวลงต่อ ประกอบกับ U-rate ที่สูงขึ้น
คงราคาเหมาะสมที่ 83.00 บาท และคงคำแนะนำ “TRADING”
เรามีโอกาสปรับประมาณการกำไรและราคาเหมาะสมขึ้นในอนาคต หากแนวโน้มกำไรใน 1Q67 ออกมาดีกว่าคาด เบื้องต้นเรายังคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 83.00 บาท โดยราคาหุ้นในปัจจุบันปรับตัว ขึ้นสูงกว่าประมาณการของเรา จึงยังคงคำแนะนำ “TRADING” ในเชิงกลยุทธ์หากมีสถานะอาจพิจารณา Lock-in-profit และกลับเข้ามาสะสมใหม่เมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง