บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

TRUE (TRUE)

Downside จำกัด … รอเวลาฟื้น

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +67.0%

Close Jan 9, 2024 Price (THB) 5.15

12M Target (THB) 8.60

Previous Target (THB) 9.70

What’s new?

  • คาดผลประกอบการ 4Q66 ขาดทุนที่ 1.2 พันล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 1.65 พันล้านบาทใน 3Q66 และดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 4.8 พันล้านบาทใน 4Q65
  • ผลประกอบการที่ดีขึ้น QoQ และ YoY มาจากการลดต้นทุนที่เข้มข้นและการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ลดลง แต่ยังไม่มีกำไรเนื่องจากต้นทุนการรวมกิจการช่วงแรก

Our view

  • เราปรับลดประมาณการและราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 เป็น 8.60 บาทต่อหุ้น (Sum of the part) เราคาด TRUE มีกำไรปกติในปี 2568
  • เราแนะนำ ” ซื้อ” TRUE มี Market cap เพียง 28% เทียบกับ ADVANC ทั้ง ๆ ที่มีขนาดของธุรกิจไม่ด้อยกว่าทำให้หุ้นมี Downside จำกัดมาก จับตาการขายหุ้นกู้ในปลายเดือนม.ค.67 หากทำได้ดีตลาดจะคลายกังวล หุ้นมีโอกาสฟื้นตัวเด่น

คาด 4Q66 ขาดทุนลดลง QoQ และ YoY … แต่จะยังขาดทุนไปอีกระยะ

คาดผลประกอบการ 4Q66 ขาดทุนปกติที่ 1.2 พันล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 1.65 พันล้านบาทใน 3Q66 และดีขึ้นเทียบกับขาดทุนปกติ 4.8 พันล้านบาทใน 4Q65 ผลประกอบการที่ดีขึ้น QoQ และ YoY มาจากการลดต้นทุนที่เข้มข้นและการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ลดลง สรุปสาระสำคัญดังนี้

ด้านรายได้ 1) ธุรกิจให้บริการมือถือคาด Service revenue ex. IC +1.0% QoQ +0.3% YoY ในเดือนพ.ย.67 TRUE ปรับเพิ่มราคาลูกค้า Postpaid ราว 15-20 บาท ผ่านการให้บริการเสริมเพิ่มเติม เช่น การได้ส่วนลดพิเศษสำหรับการซื้อของในห้าง เป็นต้น ขณะที่ Netadd Prepaid ดีขึ้นจาก Tourist Sim ที่ดีขึ้น 2) ธุรกิจ Broadband คาด Service revenue ex. IC +1.0% QoQ +2.5% YoY ใน 3Q66 ลูกค้าที่เคยได้รับส่วนลด 50% เมื่อหมดอายุสัญญาส่วนลดถูกปรับเป็น 30% ทำให้เราคาด ARPU เพิ่มขึ้น QoQ และ 3) ธุรกิจ PayTV คาดรายได้ทรงตัว QoQ

ด้านต้นทุน การลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนสามรายการสำคัญ ได้แก่ 1) การลดจำนวนพนักงานที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ระยะสันจะมีค่าใช้จ่ายพิเศษ 2) การรวมโครงข่ายระหว่าง TRUE เดิมและ DTAC ที่จะประหยัด Network OPEX แต่ระยะสันมีต้นทุนการลดจำนวนเสา และ 3) การลดจำนวนสาขาที่ซ้ำซ้อนซึ่งจะทำให้เกิดการประหยัดค่าเช่าและค่าไฟฟ้า แต่มีต้นทุนในการยกเลิกสัญญา

ในระยะสั้นกระแสเงินสดของ TRUE อ่อนแอเพราะค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้าง แม้ต้นทุน Integration Cost ส่วนใหญ่จะถูกบันทึกผ่านงบดุลโดยตรง แต่ราว 15%-20% ต้องผ่านงบกำไรขาดทุนเป็นแรงกดดันผลประกอบการระยะสั้นทำให้ยังไม่มีกำไรปกติ แต่ยิ่งเวลาผ่านไปผลบวกจากการลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนจะชัดเจนขึ้น ขณะที่ Integration Cost จะผ่านจุดสูงสุดในปี 2567 นำไปสู่การ Turnaround

จับตาการขายหุ้นกู้รอบใหม่ ลดความกังวลเงินสดตึงตัว

TRUE มีหุ้นกู้ครบกำหนดที่จะต้อง Refinance ทั้งปี 2567 ราว 6.7 หมื่นล้านบาท เป็นปัจจัยที่ตลาดกังวลจากความกลัวสภาวะตลาดตราสารหนี้ที่มีสภาพคล่องลดลง อย่างไรก็ดี TRUE มีความสามารถในการกู้ยืมกับธนาคารครอบคลุมจำนวนหนี้สินทางการเงินดังกล่าวบนต้นทุนใกล้เคียงเดิม ดังนั้นความกลัวของตลาดจึงมากเกินไป นอกจากนี้โอกาส Refinance หุ้นกู้ของ TRUE ไม่ได้นั้นต่ำมาก เนื่องจากในอดีตฐานะการเงินและขนาดของธุรกิจเล็กกว่านี้ TRUE ก็สามารถ Refinance ยอดที่ใกล้เคียงกันได้โดยตลอดเนื่องจาก TRUE เพิ่งเปิดขายหุ้นกู้รอบใหม่จำนวน 5 ชุด อายุหุ้นกู้ตั้งแต่ 1 ปี 3 เดือน ถึง 10 ปี ในช่วงปลายเดือนม.ค.67 หากการขายรอบนี้ทำได้ดีจะช่วยความกังวลให้กับตลาดเป็นปัจจัยสำคัญต่อราคาหุ้น

ปรับลดประมาณการ แต่คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมที่ 8.60 บาทต่อหุ้น

เราปรับลดประมาณการปี 2566-2568 ลงเป็นขาดทุน 6.7 พันล้านบาท ขาดทุน 1.3 พันล้านบาท และกำไรปกติ 8.8 พันล้านบาทตามลำดับ หลักๆจากการปรับเพิ่มสมฐานต้นทุนการรวมกิจการในช่วงแรกที่สูงกว่าคาด ผลการปรับลดประมาณการทำให้ราคาเหมาะสม ณ สินปี 2567 ลดลงเป็น 8.60 บาทต่อหุ้น (Sum of the part)

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นปัจจุบันมี Market Cap ที่ต่ำกว่าก่อนการควบรวมกิจการ สะท้อน Synergy ติดลบซึ่งไม่ใช่กรณีทีจะเกิดขึ้นจริง ทำให้เรามองเป็นโอกาสในการลงทุนระยะยาว แม้ระยะสั้นผลประกอบการจะอ่อนแอไปอีกระยะ แต่ราคาหุ้นที่มี Market cap เพียง 28% เทียบกับ ADVANC ทั้งๆ ที่ขนาดธุรกิจไม่ด้อยกว่าทำให้หุ้น Downside จำกัดมาก หากการขายหุ้นกู้ทำได้ดีและผลประกอบการค่อยๆดีขึ้นตั้งแต่กลางปี 2567 เป็นต้นไป หุ้นจะฟื้นตัวเด่น

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การแข่งขันด้านราคารุนแรง 2) ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ และ 3) Synergy เกิดขึ้นได้ช้า

- Advertisement -