บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

KCE Electronics (KCE)

ปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น TRADING

Action TRADING (Upgrade)

TP upside (downside) -4.3%

Close Jan 10, 2024 Price (THB) 52.00

12M Target (THB) 50.00

Previous Target (THB) 47.50

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 530 ล้านบาท (+13% QoQ, +5% Yoy) กำไรที่ฟื้นตัว QoQ และ YoY มาจากการเพิ่มระดับสินค้าคงคลังของลูกค้าและอัตรากำไรขั้นต้นที่ทยอยฟื้นตัว
  • หากกำไรออกมาตามคาด กำไรทั้งปี 2566 จะคิดเป็น 98% ของประมาณการทั้งปี 2566 ที่ 1.7 พันล้านบาท (-27% YoY) เราคงประมาณการ

Our view

  • เราคงคาดการณ์กำไรปกติปี 2567 ที่ 2.0 พันล้านบาท (+17% YoY)
  • เราปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “TRADING” อิงราคาเหมาะสม 50.00 บาทต่อหุ้น
  • ราคาหุ้นที่ซื้อขายบน PER67 ที่ 31x ไม่ถูก ระยะสั้นหุ้นยังมี Upside ในระยะสั้นจำกัด

คาดกำไรปกติ 4Q66 โต QoQ และ YoY แต่อยู่ในกรอบประมาณการทั้งปี 2566

คาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 530 ล้านบาท (+13% QoQ, +5% Yoy) กำไรที่ฟื้นตัว QoQ และ YoY มาจากรายได้ที่ได้แรงหนุนของการเพิ่มระดับสินค้าคงคลังของลูกค้า และอัตรากำไรขั้นต้นที่ทยอยฟื้นตัว สรุปสาระสำคัญดังนี้

  1. คาดรายได้หลักที่ 4.5 พันล้านบาท (+3% QoQ, -4% YoY) จากคาดยอดขายสกุลเงินดุอลลาร์สหรัฐฯ ที่ 127.4 ล้านเหรียญ (+3% QoQ, -1% YoY) การฟื้นตัว QoQ ได้รับผลบวกของการเพิ่มระดับสินค้าคงคลังของลูกค้าและการฟื้นตัวของรอบอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  2. อัตรากำไรขั้นต้นคาดที่ 23.0% (+102bps QoQ, +185bps YoY) อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมาจากการใช้กำลังการผลิตที่ดีขึ้น และค่าไฟที่ปรับลดลง 10% QoQ มากเพียงพอชดเชยค่าเงินบาท/USD ที่ทยอยแข็งค่าตลอด 4Q66
  3. SG&A คาดที่ 465 ล้านบาท (+2% QoQ, -0% YoY)

หากกำไรออกมาตามคาด กำไรปกติทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 98% ของประมาณการทั้งปี 2566 ของเราที่ 1.7 พันล้านบาท (-27% YoY) เราคงประมาณการปี 2566

แนวโน้มปี 2567 คาดกำไรปกติเติบโต 17% YoY

สำหรับมุมมองปี 2567 เราคงประมาณการกำไรปกติที่ 2.0 พันล้านบาท (+17% YoY) ภายใต้สมมติฐานสำคัญได้แก่ 1) รายได้ในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ เติบโต 12% YoY 2) ค่าเงินบาท/USD เฉลี่ยทั้งปี 2567 แข็งค่า 2% YoY และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นที่ 22% เพิ่มขึ้น 80bps YoY ประมาณการปี 2567 ของเราสมมติให้การฟื้นตัวของรายได้เกิดขึ้นตามรอบอุตสาหกรรม ขณะที่ GPM ฟื้นตัวตาม economies of scale ประมาณการของเราหากจะมี Downside Risk จะอยู่ที่ด้านรายได้ที่อาจท้าทายหากเศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรง ส่วน Upside Risk อยู่ที่ GPM ที่มีโอกาสทำได้ดีกว่าคาดหากยอดขายที่เติบโตเป็นส่วนที่ทำกำไรสูง

ปรับเพิ่มคำแนะนำขึ้นเป็น “TRADING”… อิงราคาเหมาะสม 50.00 บาทต่อหุ้น

เรายังประเมินกรอบการซื้อขาย KCE เท่ากับค่าเฉลี่ยในอดีต ภาวะอุตสาหกรรมที่กำลังทยอยฟื้นตัวในปี 2567 ทำให้ระยะสั้นตลาดมีโอกาสซื้อขายกลุ่มเกินกว่าค่าเฉลี่ยในบางเวลา โดยเฉพาะเมื่อตัวเขมหภาคส่งสัญญาณแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดีความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่ยังสูงในช่วงการเปลี่ยนถ่ายนโยบายการเงินจากดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นขาลง และความเสี่ยงการเมืองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้หุ้นที่ซื้อขายบนความคาดหวังสูงยังไม่สมควรซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เราปรับปรุงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ขึ้นเป็น 50.00 บาทต่อหุ้น อิง PER 30.0x หรือเท่ากับ ค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต PER ที่สูงขึ้นมาจากค่าเฉลี่ยนอดีตที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเราปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “TRADING” จากขาย เชิงกลยุทธ์ราคาหุ้นไม่ถูก ซื้อขายบน PER67 ที่ 31x ทำให้ Upside ในระยะสั้นจำกัด

ความเสี่ยงสำคัญ: 1) ค่าเงินบาท/USD 2) ราคาทองแดง 3) การขึ้นสายการผลิตโดยเฉพาะโรงงานที่โรจนะทำได้ล่าช้ากว่าคาด และ 4) การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงโดยเฉพาะในตลาดยุโรป

- Advertisement -