บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)

MK Restaurant Group (M)

การแข่งขันร้านหม้อไฟเดือด .. เติบโตที่ระดับเดิมเป็นเรื่องยาก

Action TRADING (Maintain)

TP upside (downside) +10.8%

Close Jan 10, 2024 Price (THB) 39.00

12M Target (THB) 43.50

Previous Target (THB) 52.50

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 363 ลบ. ชะลอลง 6.5% สวนทาง Seasonal และจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้นจากกำลังซื้อที่ชะลอลงแต่เทียบ YoY ยั้งเติบโต 13.4% จากต้นทุนที่ลดลง
  • คาดแนวโน้มกำไรปกติใน 1Q67 เบื้องต้นทรงตัว QoQ และเติบโตเล็กน้อย YoY จากกำลังซื้อที่ยังฟื้นช้า ประกอบกับจะรับรู้ราคาต้นทุนค่าไฟฟ้า และค่าแรงที่สูงขึ้น

Our view

  • เรามีมุมมองเป็นบวกน้อยลงต่อแนวโน้มการเติบโตของ M จากการแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรมร้านอาหาร และแนวโน้มอัตรากำไรสุทธิที่ยังฟื้นได้ช้า เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ลง 3% และ 12% ตามลำดับ
  • ผลของการปรับประมาณการลงเราจึงปรับลดราคาเหมาะสมลงเป็น 43.50 บาท ระยะสั้นขาดปัจจัยบวกหนุน จึงคงแนะนำ TRADING

SSSG พลิกติดลบสวนทางยอดนักท่องเที่ยว สะท้อน Traffic ในร้านที่ชะลอตัว

SSSG ใน 4Q66 คาดพลิกเป็นติดลบ เราคาดที่ -2% YoY จาก SSSG ในเดือน ต.ค. -พ.ย. ที่ติดลบระดับ -3 – 4% ทั้งร้าน MK, Yayoi และ แหลมเจริญซีฟู้ด (LCS) แม้คาดจะกลับมาฟื้นขึ้นเป็นบวกในเดือนธ.ค. แต่ยังไม่สามารถชดเชยได้ ส่งผลให้เราคาดรายได้ 4Q66 ที่ 4.02 พันลบ. (-1.7% QoQ, -30.0% YoY) ทำได้เพียงทรงตัว QoQ และ YoY ซึ่งสวนทางกับปัจจัยฤดูกาลที่ปกติเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ร้านอาหาร และสวนทางจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโต +47% YoY สะท้อนปริมาณ Traffic ในร้านที่ลดลง ตามกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่ชะลอตัว และการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารที่สูงขึ้น ขณะที่จำนวนสาขาใหม่ในไตรมาส 4Q66 สุทธิอยู่ที่ 4 สาขา ขณะเดียวกันเราคาด GPM ที่ 66.4% ปรับลดลงเล็กน้อย QoQ แต่จะรับรู้ค่าไฟฟ้าที่ปรับลงหนุน SG&A/Sales ให้ปรับลงเป็น 56.8% จาก 57.6% ใน 3Q66 ทำให้เราประเมินกำไรปกติ 4Q66 ของ M ที่ 363 ลบ. ชะลอลง 6.5% QoQ แต่เติบโต 13.4% YoY

มองปี 2567 มีความท้าทายมากขึ้นจากการแข่งขันที่สูง และค่าแรงที่ปรับขึ้น

คาดแนวโน้มกำไรปกติ 1Q67 เบื้องต้นจะทำได้เพียงทรงตัว QoQ เติบโตเล็กน้อย YoY เนื่องจากยังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของกำลังซื้อที่จำกัด และบริษัทไม่ได้เข้าร่วมโครงการ Easy E-receipt ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคเปลี่ยนไปที่ร้านอาหารอื่นแทน ประกอบกับด้านต้นทุนจะรับรู้ค่าไฟฟ้าที่ปรับสูงขึ้นอีกครั้ง ส่วนแนวโน้มการเติบโตของกำไรปกติปี 2567 มีความท้าทายมากขึ้นจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมร้านอาหารที่สูงขึ้น และบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่เพียง 7% เทียบกับอดีตที่ไม่ต่ำกว่า 10% สะท้อนมุมมองของผู้บริหารที่มีความ Conservative มากขึ้น และแม้แนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบอาจทรงตัว แต่จะมีปัจจัยกดดันจากค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นกระทบต้นทุนของบริษัท (คิดเป็นสัดส่วนราว 40-50% ของ SG&A) และการปรับขึ้นราคาสินค้าเรามองว่าเริ่มทำได้จำกัดหลังจากบริษัทปรับขึ้นราคาสินค้ามาต่อเนื่องในปี 2565-2566 และการแข่งขันของคู่แข่งที่เน้นราคาถูกมีมากขึ้น

มีมุมมองเป็นบวกน้อยลงต่อการเติบโตระยะยาว ปรับลดประมาณการกำไร

ดังนั้นเราจึงมีมุมมองเป็นบวกลดลงต่อภาพการเติบโตในระยะยาวของ M และประเมินว่าการฟื้นตัวของกำไรให้กลับไปที่ระดับช่วงก่อน COVID-19 ที่ราว 2.0 พันลบ. ยังต้องใช้เวลา โดยมีสาเหตุหลักจากอัตรากำไรสุทธิของบริษัทที่ยังฟื้นตัวได้จำกัด จากต้นทุนค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงขึ้นตามการปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของบริษัทที่เริ่มชะลอลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น และบริษัทยังไม่มีกลยุทธ์ในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดที่จริงจัง ทำให้แนวโน้มการเติบโตของกำไรหลังจากนี้ไม่ตื่นเต้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ลง 3% และ 12% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าว

ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 43.50 บาท คงคำแนะนำ TRADING

ผลของการปรับลดประมาณการกำไรทำให้เราปรับลดราคาเหมาะสมสิ้นปี 2567 ลงเป็น 43.50 บาทเทียบเท่ากับ PER ที่ 25 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลังในช่วงก่อน COVID-19 และมี Upside gain 10.8% จึงยังคงคำแนะนำ Trading เชิงกลยุทธ์เรามองราคาหุ้นขาด Catalyst ระยะสั้นจึงยังไม่ใช่จังหวะเข้าลงทุน

- Advertisement -