บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
i-Tail Corporation (ITC.BK/ITC TB)*
ประมาณการ 4Q23F: คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง
Event
ประมาณการ 4Q66F
Impact
คาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 17% YoY และ 22% QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ ITC ใน 4Q66F จะอยู่ที่ 784 ล้านบาท (+17% YoX, +22% QoQ) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะเป็นเพราะยอดขายพื้นตัวขึ้น (+20% QoQ เป็น 4.8 พันล้านบาท) เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ในยุโรป และสหรัฐเริ่มกลับมาตุนสต็อก (restock) อีกครั้ง ในขณะที่ปริมาณยอดขายสินค้า priyate label ก็เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ ITC ปรับขึ้นราคาขายสินค้า 2-3% ในไตรมาสนี้ตามต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาเป็นรายประเภท สัดส่วนยอดขายสินค้า premium อยู่ที่ประมาณ 44% (จาก 49% ในปี 2565) เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงยังคงส่งผลกระทบกับทางเลือกของลูกค้า
ราคาปลาทูน่าลดลงจะส่งผลดีต่อ margin
ราคาปลาทูน่าใน 4Q66 เฉลี่ยอยู่ที่ USS1,517/ton (-9% YoY, -16% QoQ) ซึ่งดีกว่าประมาณการก่อนหน้านี้ของเราที่ USS1.700/ton โดยราคาปลาทน่าที่ลดลง และปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้นน่าจะหนุนให้ GPM เพิ่มขึ้น 1.0 ppts QoQ เป็น 21.0% อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า GRM จะลดลง 1.0ppts YoY เนื่องจากปริมาณยอดขายลดลง ในขณะที่คาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้น 2.0ppts YoY เป็น 7.8% เนื่องจากยอดขายลดลง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8ppts QoQ เพราะค่าใช้จ่ายด้านการบริหารน่าจะสูงขึ้นในไตรมาลสุดทายของปี
การขยายลูกค้า private label จะช่วยหนุนการเติบโตในปี 2567F
ผู้บริหารคาดว่ายอดขายจะลดลง QoQ ใน 1Q67F เพราะปัจจัยฤดูกาล แต่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทในปีนี้ คือการขยายตัวของทั้งลูกค้าเดิม ลูกค้าใหม่ในกลุ่ม private labe! โดยตลาดที่มีศักยภาพหลัก ๆ ยังคงเป็นสหรัฐ และ EU โดยเฉพาะ EU ซึ่งบริษัทมีแนวโนมจะหาลูกค้าในธุรกิจคาปลีกรายใหม่ได้เพิ่มขึ้น
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 24.00 บาท อิงจาก PER ที่ 25x เราคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ ITC งวดปี 2566F จะอยู่ที่ 2.4% ทั้งนี้ ITC มีงบดุลที่แข็งแกร่งมาก โดยมีสถานะเงินสดสุทธิก้อนใหญ่
Risks
ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ, อัตราแลกเปลี่ยน และ การแข่งขันในตลาด