บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Cp Axtra (CPAXT)
เริ่มเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการ
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +16.1%
Close Jan 11, 2024 Price (THB) 27.75
12M Target (THB) 32.50
Previous Target (THB) 32.50
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 3.0 พันล้านบาท (+75.7% QoQ และ +11.8% YoY) ได้แรงหนุนจาก SG&A/Sales และดอกเบียจ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเป็น 1,413 ล้านบาท (+0.7%QoQ และ -35.9% YoY)
- บริษัทตังเป้ายอดขายปี 2567 โต 7-9% หลักๆ มาจากยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนทางด้าน GPM ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง นอกจากนี้ SG&A/Sales คาดลดลง เนื่องจากจำนวนเม็ดเงินที่ลงทุนในดิจิตอลเริ่มลดลง ขณะที่ยอดขายเติบโตขึ้น
Our view
- คงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 32.50 บาท/หุ้น เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 คาดเติบโตต่อเนื่อง ตาม 1) ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของมาตรการ Easy e-Receipt 2) ค่าใช้จ่ายลดลงจากการเริ่มเกิด Economy of Scale ในช่องทางการขายออนไลน์มากขึ้น 3) ต้นทุนค่าไฟที่ลดลง 4) ดอกเบี้ยจ่ายลดลง
คาดกำไร 4Q66 โตเด่นทั้ง QoQ และ YoY
เราคาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 3.0 พันล้านบาท (+75.7% QoQ และ +11.8% YoY) ได้แรงหนุนจาก (1) ธุรกิจค้าส่ง (Makro) คาดรายได้อยู่ที่ 6.9 หมื่นล้านบาท (+8.3% QoQ, +4.0% YoY) มาจาก SSSG +3% YoY และมีการเปิดสาขาใหม่อีก 6 แห่ง (2) ธุรกิจค้าปลีก (Lotus’s) คาดรายได้อยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท (+6.3% QoQ, +4.3% YoY) ได้แรงหนุนจาก SSSG ที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งฝั่งประเทศไทยและมาเลเซีย 3) SG&A/Sales อยู่ที่ระดับ 12.7% ลดลงจาก 4Q65 ที่ 13.4% และ 3Q66 ที่ 13.7% ตามต้นทุนค่าไฟที่ลดลง บวกกับค่าใช้จ่ายในการลงทุนเกี่ยวกับดิจิทัลลดลง ขณะที่รายได้นั้นเติบโตขึ้น 4) ต้นทุนทางการเงินลดลงเหลือ 1,413 ล้านบาท (+0.7% QoQ และ -35.9% YoY) ทั้งนี้ หากรวมขาดทุนพิเศษจากการปิดสาขาในจีน 5 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท (+79.5% QoQ และ +21.8% YoY)
แผนการดำเนินงาน 2567
แผนการเติบโตปี 2567 บริษัทจะดำเนินธุรกิจโดยใช้กลยุทธ์ 1) เป็น Destination ของ Fresh & Food ซึ่งจะยกระดับไม่เพียงแต่อาหารสดเท่านั้น แต่จะเพิ่มอาหารที่เกี่ยวกับ Ready to Eat & Cook และ Bakery มากขึ้น บวกกับจัดหาสินค้าระดับโลกมาวางขายเพิ่มเติมเพื่อให้ครบวงจร 2) ปรับรูปแบบร้านค้า และพื้นที่ให้เหมาะสมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคมากที่สุด 3) ขยายสาขาไปยังชุมชนต่างๆ มากขึ้นเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า 4) เพิ่มประสิทธิการดำเนินงานระหว่างกลุ่มมากขึ้น เช่น การขนส่ง และการใช้ระบบไอที่ร่วมกัน
บริษัทตั้งเป้ายอดขายโต 7-9% หลัก ๆ มาจากยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนทางด้าน GPM คาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เช่น เน้นไปที่สินค้า Ready to Eat & Cook มากขึ้น รวมถึงเกิด Synergy ระหว่างกลุ่มมากขึ้นทำให้ต้นทุนถูกลง นอกจากนี้ SG&A/Sales คาดลดลง เนื่องจากจำนวนเม็ดเงินที่ลงทนในดิจิตอลเริ่มลดลง ขณะที่ยอดขายเติบโตขึ้น
ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุด…คงคำแนะนำ “สะสม”
คงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 32.50 บาท/หุ้น เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 คาดเติบโตต่อเนื่องตาม 1) ยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากแรงหนุนของมาตรการ Easy e-Receipt 2) ค่าใช้จ่ายลดลงจากการเริ่มเกิด Economy of Scale ในช่องทางการขายออนไลน์มากขึ้น 3) ต้นทุนค่าไฟที่ลดลงเหลือ 4.2 บาท/หน่วย ต่ำกว่า 1Q66 ที่ 5.3 บาท/หน่วย 4) ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 5) Valuation ดูน่าสนใจ ราคาหุ้นซื้อขาย PER ปี24F เหลือ 27.5 เท่า ต่ำกว่าค่า PE เฉลี่ย -0.5 SD