บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Siam Global House PCL (GLOBAL.BK/GLOBAL TB)*
ประมาณการ 4Q66F: อีกหนึ่งไตรมาสที่อ่อนแอ
Event
ประมาณการ 4Q66, ปรับประมาณการกำไร และปรับราคาเป้าหมาย
Impact
ประมาณการ 4Q66: กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิของ GLOBAL ใน 4Q66F จะอยู่ที่ 477 ล้านบาท (-10% YoY, -9% QoQ) เพราะ same
store sales ลดลง, อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากการจัดโปรโมชัน, และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเปิดร้านใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2566 อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท (-26% YoY) ต่ำกว่าประมาณการกำไรเต็มปีของเรา 6% ทั้งนี้ เราคาดว่ายอดขายของ GLOBAL ใน 4Q66F จะอยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท (-6% YoY, +5% QoQ) เนื่องจาก same-store-sales -13% YoY ใน 4Q66F (จาก -2% ใน 4Q65 และ -12.3% ใน 3Q66) ซึ่งจะทำให้ยอดขายในปี 2566F อยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาท (-8% YoY) เราคาดว่าบริษัทจะเปิดสาขาใหม่สองร้านในไตรมาสนี้ ทำให้จำนวนสาขารวมเพิ่มขึ้นเป็น 83 ร้าน ณ สิ้นปี 2566 (จาก 77 ร้าน เมื่อสิ้นงวด 4Q65 และ 81 ร้านเมื่อสิ้นงวด 3Q66) เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q66 จะอยู่ที่ 25.3% (+50bps YoY, -60bps QoQ) เพราะมีการจัดโปรโมชัน ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566 อยู่ที่ 25.4% (-40bps YoY) แต่ยังสูงกว่าสมมติฐานเต็มปีของเราที่ 25.2%
กำลังซื้อยังไม่เอื้อในช่วงต้นปี แต่คาดว่าจะดีขึ้นในช่วงปลายปี 2567
จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร รายได้ภาคเกษตรในประเทศไทยลดลง 4% YoY ในเดือนพฤศจิกายน จากทั้งด้านของราคา (-1% YoY) และผลผลิต (-3% YoY) ส่งผลให้รายได้ภาคเกษตรในงวด 11M66 ลดลง 4% YoY (Figure 4) ซึ่งรายได้ภาคเกษตรที่ลดลงในช่วงปลายปีอาจจะส่งผลกระทบกับการจับจ่ายใช้สอยในช่วง 1Q67 (ซึ่งอาจจะเป็นช่วง peak ตามฤดูกาล) อย่างไรก็ตาม ความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับภาวะภัยแล้งน่าจะช่วยหนุนกำลังซื้อในการเพาะปลูกรอบหน้า (ซึ่งน่าจะทำให้กำลังซื้อดีในช่วงปลายปี 2567 และต้นปี 2568) ทั้งนี้ ตามพยากรณ์ของ ENSO จาก Columbia Climate School International Research Institute for Climate and Society มีความน่าจะเป็น 80-100% ที่จะอยู่ในภาวะ El Nino อีก 2-3 เดือน ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะ Neutral เราได้ทำการทบทวนสมมติฐานยอดขาย, อัตรากำไรขั้นต้น, และค่าใช้จ่าย SG&A (Figure 9) ซึ่งทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566-2567 ลง 7%
Valuation & action
เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 17.20 บาท อิงจาก PER ที่ 29.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่าง GLOBAL กับคู่แข่งในประเทศ -0.5 S.D.) เทียบเท่า PEG จาก EPS ปี 2567 ที่ 1.9x ทั้งนี้ เนื่องจากราคาปิดล่าสุดเหลือ upside จำกัด และขาดปัจจัยกระตุ้นด้านบวก เราจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ” GLOBAL
Risks
เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้า
ค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก