บล.ฟินันเซีย ไซรัส:

TISCO FINANCIAL (TISCO TB)

ปัจจัยกดดันต่อเนื่องในปี 2024

  • กำไรสุทธิ 4Q23 ออกมาใกล้เคียงกับที่เราคาดแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด
  • เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2024-25 เพื่อสะท้อนเป้าประมาณการของบริษัทฯ ในปี 2024 ซึ่งทำให้ประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 2024 ลดลง 8% และค่อนข้างทรงตัวในปีประมาณการ 2025-26
  • คงคำแนะนำถือ แม้ว่าจะไม่มี Upside แต่ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลน่าสนใจ

กำไร 4Q23 ออกมาใกล้เคียงกับที่เราคาดแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด

TISCO รายงานกำไรสุทธิ 4Q23 อยู่ที่ 1.78พัน ลบ. (-5.0% q-q, -1.4% y-y) นอกจากนี้ กำไรก่อนสำรองยังลดลง 0.2% q-q และ 6.0% y-y เป็น 2.47 พัน ลบ. ส่วนมากมาจากผลขาดทุนทาเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่สูงกว่าคาด โดยบางส่วนเป็นการจัดสรรเพื่อรับมือกับการตัดจำหน่ายหนี้ด้อยคุณภาพ ซึ่งค้างชำระเป็นเวลานานในกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด ช่วยชดเชยผลกระทบที่มีต่อกำไร รายได้ค่าธรรมเนียม และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิอื่นใกล้เคียงกับที่เราคาด กำไรสุทธิปี 2023 เพิ่มเป็น 7.30 พัน ลบ. ปรับขึ้นเล็กน้อย 1.1% y-y

คุณภาพสินทรัพย์เสื่อมลงตามคาด

คุณภาพสินทรัพย์เสื่อมลงตามคาด ส่วนมากเกิดจากหนี้ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง จากการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพเชิงรุก โดยตั้งต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 43bp ใน 4Q23 ซึ่งบางส่วนเพื่อรับมือกับการตัดจำหน่ายนี่ด้อยคุณภาพ ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น สัดส่วนนี้ได้คุณภาพลดลงเหลือ 2.22% (เราคาดไว้ที่ 2.31% แต่ยังสอดคล้องกับเป้าประมาณการของ TISCO ที่น้อยกว่า 2.50%) ในขณะที่สัดส่วนสำรองต่อหนี้ได้คุณภาพลดลงเหลือ 190% จาก 206% ใน 3Q23 (เราคาดไว้ที่ 192%) นอกจากนี้ หนี้จัดชั้นที่ 2 (8% ของตัวเลขรวม) ยังลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 10.4% q-q และ 10.0% y-y TISCO แจ้ง ว่าตัวเลขที่ลดลงเกิดจากผลกระทบของการจัดชั้นหนี้ใหม่ โดยผ่อนคลายนโยบายเพิ่มความเสี่ยงทางเครดิตอย่างมีนัยสำคัญ (SICR) เป็นจำนวนประมาณ 1% ของสินเชื่อรวม

แนวโน้มปี 2024 ไม่สดใส พร้อมปัจจัยกดดันหลายประการที่ทำให้ต้องปรับลดประมาณการกำไร

จากเป้าประมาณการปี 2024 ของผู้บริหาร  เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-25 จากเดิมลง 14.6% และ 18.6% ตามลำดับ ส่วนมากเกิดจาก 1) สมุมติฐานส่วนต่างดอกเบี้ยที่ลดลงจาก Cost of funds ที่เพิ่มขึ้น: 2) เป้าการเติบโตเฉลี่ยของสินเชื่อที่ลิดลงเป็น 6% ต่อปี (จาก 8% ต่อปี); 3) สมมติฐานต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มเป็น 50-70bp (จากประมาณ 30bp); และ 4) สมมติฐานสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ที่เพิ่มเป็นประมาณ 49-50% (จาก 47.5%) ซึ่งทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 พลิกเป็นลดลง 7.8% y-y ก่อนโตเล็กน้อยที่ 0.8% y-y และ 0.4% y-y ในประมาณการปี 2025-26 ตามลำดับ

คงคำแนะนำถือ แม้ว่าจะไม่มี Upside แต่ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลน่าสนใจ

เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2024 เป็น 97 จาก 107 บาท (GGM) ส่วนมากจากการปรับลดสมมติฐานผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นระยะยาวเป็น 16% (จาก 17.8%) ซึ่งคิดเป็นค่า PIBV ที่ 1.79x (จาก 1.9x) เราคงคำแนะนำถือ แม้ว่าราคาหุ้นในปัจจุบันจะไม่มี Upside หุ้นให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลที่น่าสนใจที่ประมาณ 8% ต่อปี

 

- Advertisement -