KS Daily View 16.01.2024 >>> กำไร บจ. ฟื้นตัวช้า รองบภาครัฐ นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว คาดดัชนีแกว่งตัวลงในกรอบ 1,400-1,410 จุด หุ้นแนะนำ CKP, GFPT

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันก่อน

ต่างประเทศ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวัน Martin Luther King Jr. ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบวานนี้ โดยดัชนี STOX Europe 600 index ปรับตัวลง -0.54% DoD เป็น 474.19 จุด จาก ECB Holzmann มองว่าทางธนาคารกลางยุโรปควรคงดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี 2024 ขณะเดียวกันเยอรมันรายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 4/66 หดตัว -0.3% QoQ เทียบไตรมาส 3/66 ที่ +0% QoQ จากแรงกดดันของดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูง, ราคาพลังงานที่ยังสูงอยู่ รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนกดดันการส่งออกเครื่องจักร และรถยนต์

ในประเทศ: SET Index -6.51 จุด หรือ -0.46%ปิดที่ 1,407.02 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ STA (+2.94%), GUNKUL (+2.86%), SIRI (+2.26%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ ERW (-5.10%), SPRC (-4.79%), MTC (-4.32%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาดดัชนีแกว่งตัวลงในกรอบ 1,400-1,410 จุด เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่ๆ ขณะที่ยังคงต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงที่รออยู่ ทั้งการโหวตเพื่อขอเลื่อนชำระหุ้นกู้ทุกรุ่นของ ITD ในวันพุธนี้ การประกาศงบแบงค์ที่เหลือหลัง TISCO ให้มุมมองเชิงลบในปี 2567 รวมถึงการรายงานกำไรของ บจ. ที่เหลือซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวช้าจากการบริโภคที่อ่อนแอ และนักท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าจากค่าใช้จ่ายโรงแรม ที่พัก และอาหารสูงขึ้นเฉลี่ย 30% และเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ ดังนี้ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทย 6,796 ลบ.จากต้นปี 2567

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) ติดตามการประกาศงบไตรมาส 4/66 และมุมมองปี 2567 ของธนาคารพาณิชย์ที่เหลือ หลังล่าสุด TISCO ให้มุมมองเชิงลบจากการประชุม นวค. จากปี 2567 มีความท้าทายหลายประการเช่น NIM ที่น้อยลง สินเชื่อโตชะลอลง และ credit cost ที่น่าจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เราคาดกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาด 4.39 หมื่นลบ. (-7% QoQ, +18%YoY)

2.) ติดตาม ส.อ.ท.เตรียมชงรัฐดูแลค่าไฟฟ้าระยะเร่งด่วนปี 2567 วางเป้าหมายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยไม่เกิน 3.60 บาท/หน่วย ผ่านการบริหาร 5 แนวทางหลัก เพื่อทำให้แผนระยะกลางและระยะยาวไปสู่เป้าหมายค่าไฟฟ้าเฉลี่ยไม่เกิน 3 บาท/หน่วย เน้นเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา เปิดตลาดไฟเสรี ฯลฯ ทั้งนี้เรามีมุมมองเป็นกลางกับข่าวดังกล่าวต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP เนื่องจากมองว่ารัฐบาลจะต้องบริหารจัดการค่าไฟฟ้าให้สอดคล้องกับต้นทุนเพื่อชดเชยเงินคืนให้กับทาง กฟผ. ที่ปัจจุบันมีหนี้มากกว่า 1 แสนลบ.

3.) นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 16 ม.ค.67 สำนักงบฯ จะเสนอกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ให้พิจารณาก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในปฏิทินงบประมาณ โดยมีวงเงินงบประมาณรวม 3.6 ล้านล้านบาท เพิ่ม 3.4% จากปีงบ 67 ที่มี 3.48 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบประมาณแบบขาดดุลการคลัง 713,000 ล้านบาท ภายใต้การประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ 2.887 ล้านล้านบาท เพิ่ม 3.6% ส่วนหนี้สาธารณะคงค้าง12,664,069 ล้านบาท คิดเป็นหนี้สาธารณะคงค้างต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) 63.73%

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,404-1,425 จุด ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตามหากหลุดแนวรับดังกล่าว ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,400 จุด และ 1,375 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่จะต้องติดตามคือ ความคืบหน้าของ พรบ.กู้เงิน 5 แสนลบ. เพื่อทำดิจิตอลวอลเล็ต ซึ่งล่าสุดฐานเศรษฐกิจรายงานข่าวว่ารัฐบาลอาจยุติการออก พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว และหันไปใช้ พรบ. งบประมาณปี 2568 แทนพร้อมลดวงเงินเหลือ 3 แสนล้านบาท จากหนังสือตอบกลับของกฤษฎีการะบุเงื่อนไขข้อจำกัดทางกฎหมาย นอกจากนี้ต้องติดตามการโหวตเพื่อขอเลื่อนชำระหุ้นกู้ทุกรุ่นของITD ไปอีก 2 ปี ในวันที่ 17 ม.ค. โดยต้องการเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุมในแต่ละรุ่น รวมถึงการประกาศผลประกอบการ 4Q23 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทย ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่  ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ รวมถึงตัวเลขจีดีพี 4Q23 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนธ.ค. ของจีน

หุ้นแนะนำวันนี้

CKP (ราคาพื้นฐาน 4.60 บาท) ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายจาก 4.20 บาท เป็น 4.60 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับเพิ่มประมาณการกำไรของเราปี 2566/67/68 ขึ้น 39%/11%/16% จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโรงไฟฟ้า SPP จากโอกาสที่จะเกิดปรากฏการณ์ลานีญาสูงขึ้นในปี 2567 หนุนปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น

GFPT (ราคาพื้นฐาน 11.85 บาท) คาดกำไรปี2024 ฟื้นตัวเด่นจากราคาวัตถุดิบทั้งข้าวโพด และกากถั่วเหลืองปรับลดลง ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ฟื้นตัวจากรัฐบาลปรามปรามหมูเถื่อน และตีนไก่เถื่อน

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ (Zew Economic Sentiment) ของยุโรปสำหรับเดือน ม.ค. โดยตัวเลขในเดือนก่อนหน้ารายงานอยู่ที่ 23 จุด ต่อด้วยช่วงข้ามคืนติดตามตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (Empire State manufacturing index) ของสหรัฐฯสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ -7.1 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -14.5 จุด
  • วันพุธ ติดตาม ตัวเลข GDP ของจีน สำหรับไตรมาส 4/66 ตลาดคาดขยายตัว 5.3% YoY เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัว 4.9% YoY และตัวเลขดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial production) ของจีนสำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ 6.3% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.6% YoY ต่อด้วยติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของยุโรป (Headline CPI) สำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ 2.9% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 2.4% YoY และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของยุโรป (Core CPI) สำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ 3.4% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.6% YoY ช่วงข้ามคืนติดตามตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ (Retail sales) สำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดขยายตัว 4.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.1% YoY
  • วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขอนุญาตสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ (Building permits) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ 1.48 ล้านยูนิต เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.467 ล้านยูนิต ต่อด้วยตัวเลขสร้างบ้านใหม่ (Housing starts) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ธ.ค. ตลาดคาดที่ 1.415 ล้านยูนิต เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.56 ล้านยูนิต และติดตามตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (Philly Fed manufacturing index) ของสหรัฐฯสำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ -5.0 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -10.5 จุด
  • วันศุกร์ ติดตามการให้สัมภาษณ์ของประธานธนาคารกลางยุโรป นาง Christine Lagarde ที่มีกำหนดการให้สัมภาษณ์ในเวทีงาน World Economic Forum ที่ Davos ในประเด็น The Global Economic Outlook และติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของสหรัฐฯ (Prelim UoM consumer sentiment) สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ 68.8 จุด เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 69.7 จุด
- Advertisement -