ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง (Filing) คิวทีซีจี “QTCG” ขายไอพีโอ 180 ล้านหุ้น สยายปีกสู่การเป็นผู้นำให้บริการติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารแบบครบวงจร
ก.ล.ต. ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง (Filing) บมจ. คิวทีซีจี “QTCG” จ่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หวังระดมทุนเพิ่มศักยภาพการรับงาน สู่ช่องทางขยายโอกาสต่อยอดธุรกิจ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำให้บริการติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคารแบบครบวงจรระดับต้นๆ ของประเทศไทย
นายกิตติชัย นาคะประเสริฐกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท คิวทีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ QTCG เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนของ QTCG เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งแรกต่อประชาชน (IPO) จำนวน 180 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ด้วยมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในไตรมาส 1 ปี 2567 ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
“ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้น 600 ล้านหุ้น แบ่งเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 210 ล้านบาท และมีนโยบายจ่ายเงินปันผล ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล”
QTCG ดำเนินธุรกิจด้านงานรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical: M&E) อย่างครบวงจร ประกอบด้วย 1) ระบบไฟฟ้าและการสื่อสาร 2) ระบบปรับอากาศและการระบายอากาศ 3) ระบบสุขาภิบาลและระบบประปา และ 4) ระบบป้องกันไฟภายในอาคาร ด้วยประสบการณ์ กว่า 22 ปี ทำให้บริษัทฯ มีทีมวิศวกรที่มากด้วยประสบการณ์ และมีศักยภาพให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมภายในอาคารทุกระบบอย่างครบวงจร ทั้งในรูปแบบผู้รับเหมาหลัก (Main contractor) และในรูปแบบผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor) ซึ่งรูปแบบการให้บริการของบริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการดำเนินงานติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายกระจายในหลากหลายอุตสาหกรรม ประกอบด้วย กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม กลุ่มอาคาร กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม เป็นต้น และด้วยจุดเด่นการเป็นหนึ่งในผู้นำด้านวิศวกรรมงานระบบครบวงจรของไทย ส่งผลให้บริษัทฯ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่การสร้างโอกาสการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
นายธิติวัฒน์ เงินนำโชคธนรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิวทีซีจี จำกัด (มหาชน) “QTCG” เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการเสริมสร้างศักยภาพทางการเงิน เพื่อสยายปีกและต่อยอดธุรกิจให้แข็งแกร่ง และเพิ่มโอกาสการรับงานโครงการต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจปกติของบริษัทฯ ภายในปี 2567 – 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันขยายโอกาสสู่การสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการด้านรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร (Mechanical & Electrical: M&E) อย่างครบวงจรของประเทศไทย ซึ่งสอดรับกับวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาคุณภาพงาน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า จากการใส่ใจความต้องการของลูกค้า การบริหารงาน ที่ดี การควบคุมกระบวนการทำงาน การบริหารและจัดการโครงการที่มีประสิทธิภาพภายใต้มาตรฐานสากล
ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 – 2565 และงวด 9 เดือนแรกปี 2566 QTCG มีรายได้จากงานก่อสร้างและงานบริการ 625.48 ล้านบาท 905.50 ล้านบาท และจำนวน 590.52 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของรายได้ที่รับรู้จากงานก่อสร้าง ในการให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบวิศวกรรมประกอบอาคารเป็นหลัก โดยมีกำไรสุทธิ 23.43 ล้านบาท 101.76 ล้านบาท และ 25.60 ล้านบาท ตามลำดับ
งวด 9 เดือนปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 25.60 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าจำนวน 50.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการลดลงที่ร้อยละ 66.28โดยมีสาเหตุหลักมาจากในงวด 9 เดือนปี 2566 กลุ่มบริษัทไม่มีรายได้จากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ไม่มีรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพจำนวน 4.66 ล้านบาท และกำไรจากการขายเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จำนวน 25.87 ล้านบาท รวมถึงกำไรจากการกลับรายการ (ผลขาดทุน) ด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 19.21 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่ารวมในงวด 9 เดือนปี 2565 จำนวน 49.74 ล้านบาท ซึ่งหากตัดผลกระทบดังกล่าวออกไปในงวด 9 เดือนปี 2565 และปี 2566 บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิ จำนวน 26.20 ล้านบาท และ 25.60 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกัน
ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีมูลค่างานที่ยังไม่ได้รับรู้รายได้ประมาณ 1,248 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานขนาดใหญ่ในกลุ่มลูกค้าที่มีชื่อเสียง อาทิ โครงการ CIB International school, โครงการ คอนโด ชูช์ ราชเทวี (SHUSH), โครงการก่อสร้างอาคารกระทรวงมหาดไทย, โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โซน C, โครงการ วัน อมตะ, โครงการก่อสร้างอาคารใหม่ตลาดยิ่งเจริญ, โครงการ KIS International school เป็นต้น
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะรักษาคุณภาพและผลงานการก่อสร้างให้ได้ตามมาตรฐานและตรงตามวัตถุประสงค์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือหัวใจหลักสำคัญที่สร้างโอกาสให้ QTCG เติบโตอย่างยั่งยืนจนถึงทุกวันนี้”