บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Star Petroleum Refining (SPRC)
4Q66 พลิกขาดทุนสูง
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +17.0%
Close Jan 15, 2024 Price (THB) 7.95
12M Target (THB) 9.30
Previous Target (THB) 9.00
What’s new?
- คาด 4Q66 อ่อนแอ ขาดทุนสุทธิสูง 4.7 พันล้านบาท พลิกจากกำไรทั้ง QoQ และ YoY กดดันจากค่าการกลันลดลงเหลือ US$2/bbl, ขาดทุนสต็อกน้ำมันสูง 3.9 พันล้านบาท, ค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้นจากกิจกรรมปิดซ่อมบำรุง
- หาก 4Q66 เป็นไปตามคาด ผลประกอบการปี 2566 จะอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า ปรับประมาณการปี 2566 เป็นขาดทุน 1.3 พันล้านบาท แต่ปรับปี 2567 ขึ้นเป็น 3.9 พันล้านบาท จากการรวมดีลลงทุนธุรกิจปลายน้ำ (Caltex)
Our view
- แนวโน้ม 1Q67 ฟื้นตัวจากค่าใช้จ่าย และขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมากไม่เกิดขึ้น รวมทั้งได้อานิสงส์ Crude Premium ลดลง และอัตราการกลั่นสูงขึ้น
- ติดตามความคืบหน้าการกลับมาใช้งานท่อ SPM ช่วง 1H67 ช่วยลดค่าขนส่งได้ US$1-1.5/bbl
- คงคำแนะนำ TRADING ราคาเหมาะสมใหม่ 9.30 บาท เชิงกลยุทธ์แนะนำรอลงทุนหลังผ่านงบ 4Q66 เพราะ 4Q66 อ่อนแอกว่าคู่แข่ง, ประมาณการปี 2566 ของตลาดมี Downside, เงินปันผลงวด 2H66 เกิดความเสี่ยงจากงบปี 2566 และดีลลงทุน Caltex
คาด 4Q66 ขาดทุนสุทธิสูงกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า
คาด 4Q66 ขาดทุนสุทธิสูง 4.7 พันล้านบาท พลิกจากกำไร 4.2 พันล้านบาทใน 3Q66 และ 260 ล้านบาทใน 4Q65 โดยเมื่อเทียบกับ 3Q66 แม้คาดอัตราการกลั่นเพิ่มขึ้นเป็น 150 kbd (vs 139 kbd ใน 3Q66) จากการปิดซ่อมบำรุงลดลง (4Q66 หยุดซ่อมหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน 1 ครั้งในหน่วย RFCCU ช่วงเดือนต.ค. – พ.ย. vs 3Q66 ปิดซ่อมบำรุง 2 ครั้งในหน่วย RFCCU และ DHTU) อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลประกอบการอ่อนแอลง QoQ จาก 1) ค่าการกลั่นประเมินเหลือ US$2/bbl (-76% QoQ) กดดันจาก Crack Spread น้ำมันสำเร็จรูปชนิดหลักปรับตัวลง (น้ำมันเบนซิน, ดีเซล, อากาศยาน) สวนทาง Crude Premium และค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 2) ขาดทุนสต็อกน้ำมันสูง 3.9 พันล้านบาท ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับฐาน 3) ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากกิจกรรมซ่อมบำรุงในช่วงที่ผ่านมา หาก 4Q66 เป็นไปตามคาด ผลประกอบการปี 2566 จะขาดทุนสุทธิ 1.3 พันล้านบาท ต่ำกว่าที่เราเคยประเมินไว้ก่อนหน้าว่าจะกำไร 3.0 พันล้านบาท
1Q67 ฟื้นตัว…ติดตามการกลับมาใช้งานท่อ SPM ช่วง 1H67
สำหรับ 1Q67 คาดผลประกอบการฟื้นตัว QoQ โดยค่าการกลั่นมีปัจจัยหนุนจากการปรับลงของ Crude Premium อ้างอิง Murban Premium 1Q67TD ลดลง -US$2.2/bbl QoQ, ไม่มีค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงจำนวนมากเข้ามากดดัน, ขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมากไม่เกิดขึ้น, อัตราการกลั่นคาดสูงขึ้นเป็น 170 kba (สถิติใหม่รายไตรมาส) จากอุปสงค์น้ำมันในประเทศที่แข็งแกร่ง, และการเริ่มรับรู้ผลประกอบการของดีลซื้อธุรกิจปลายน้ำ ขณะที่หุ้นมีปัจจัยสำคัญต้องติดตาม ได้แก่ การกลับมาใช้งานทุ่นรับน้ำมันทางทะเล (SPM) ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการด้านใบอนุญาต โดยบริษัทฯ เชื่อว่าจะสามารถกลับไปใช้งานท่อดังกล่าวได้ภายใน 1H67 ช่วยลดค่าขนส่ง ซึ่งปัจจุบันสูง US$1.0- 1.5/bbl
ปรับปี 2566 ลงเป็นขาดทุนสุทธิ แต่ปรับปี 2567 ขึ้น รวมดีลเข้าซื้อธุรกิจขั้นปลาย
เนื่องจาก 4Q66 มีแนวโน้มอ่อนแอกว่าที่ประเมินไว้ เราปรับประมาณการปี 2566 เป็นขาดทุนสุทธิ 1.3 พันล้านบาท (จากกำไร 3.0 พันล้านบาท) ทั้งนี้ เราปรับคาดการณ์กำไรปี 2567 ขึ้น 8% เป็น 3.9 พันล้านบาท จากการรวมธุรกรรมการเข้าซื้อธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน Caltex และการลงทุนในธุรกิจท่อขนส่งน้ำมันเข้ามาไว้ในประมาณการตั้งแต่ 1Q67 (บนสมมติฐานกำไรเพิ่มเติม 3 ร้อยล้านบาท/ปี หลัง หักต้นทุนการเงิน และรายการซื้อขายระหว่างกัน)
จังหวะลงทุนแนะนำรอผ่านงบไปก่อน
ประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ใหม่ที่ 9.30 บาท อ้างอิง PBV 1.0 เท่า (-1.0 SD) เพิ่มขึ้นจาก 0.9 เท่า จาก Portfolic ธุรกิจขั้นปลายที่มี Valuation สูงกว่า เพราะผลประกอบการมั่นคงกว่าธุรกิจการกลั่น คงคำแนะนำ TRADING เชิงกลยุทธ์อาจรอจังหวะเข้าลงทุนอีกครั้งหลังรายงานผลประกอบการ เนื่องจากระยะสั้นแนวโน้มงบ 4Q66 แย่กว่าคู่แข่ง, ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการปี 2566 ลง, เงินปันผลงวด 2H66 มีความไม่แน่นอน เนื่องจากผลประกอบการปี 2566 ขาดทุน และบริษัทฯ มีความต้องการใช้เงินลงทุนในธุรกรรมลงทุน Caltex (ประกาศผลประกอบการวันที่ 20 ก.พ.)