บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
TISCO Financial Group (TISCO)
กำไรไม่หวือหวา แต่มีจุดเด่นที่เงินปันผล
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +15.4%
Close Jan 15, 2024 Price 100.50
12M Target 116.00
Earnings Results
- TISCO รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 จำนวน 1,782 ลบ. ลดลง 1.4% YoY และ 5.0% QoQ ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด
- ประเด็นกดดันหลักมาจากฝั่งค่าใช้จ่าย ได้แก่ 1) การตั้งสำรองเพิ่มขึ้น 90% QoQ หลังผลขาดทุนจากการขายรถยึดเพิ่มขึ้น ตามภาวะตลาดรถยนต์มือสองที่ยังมีปัญหา Supply รถยึดสูงกว่าปกติ อีกทั้งเป็นผลจากการปรับ Loan Mixed ที่หันมาเน้นขยายสินเชื่อในกลุ่ม High Yield มากขึ้น ทั้งในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองและสินเชื่อจำนำทะเบียน ทำให้บริษัททยอยเพิ่ม Credit Cost ขึ้นเรื่อยๆ และ 2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1% QoQ หลักๆ มาจากค่าโบนัสพนักงานและค่าใช้จ่ายทางการตลาด
- รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิปรับขึ้น 1.1% QoQ แม้ NIM จะลดลงเหลือ 5.1% จาก 5.2% ใน 3Q66 หลังต้นทุนทางการเงินเร่งตัวขึ้นเร็วกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ แต่ผลดังกล่าวถูกชดเชยด้วยการเติบโตของสินเชื่อรวมที่ 1.3% QoQ ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยโต 0.8% QoQ หลัก ๆ มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมของธุรกิจนายหน้าประกันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของพอร์สสินเชื่อ และค่าธรรมเนียมธุรกิจบริหารจัดการกองทุนรวมที่ฟื้นตัวขึ้น
- คุณภาพสินทรัพย์แข็งแรงขึ้น สะท้อนจาก NPL Ratio ทรงตัวราว 2.2% ใกล้เคียงกับ 3Q66 และ Stage 2 Ratio ลดลงเหลือ 8.5% จาก 9.6% ใน 3Q66 ทำให้บริษัทเริ่มลดระดับ Coverage Ratio เหลือ 189.8% จาก 205.8% ใน 3Q66 ซึ่งยังเป็นระดับ Coverage Ratio ที่สูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม
- TISCO มีอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง จำนวน 16.3% และ 19.5% ตามลำดับ สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ธปท. ที่ 8.5% และ 11%
Our Take
- แนวโน้มปี 2567 เราคาด TISCO จะมีกำไรสุทธิ 7,718 ลบ. โต 5.7% YoY มีแรงหนุนหลักจากการเร่งขยายสินเชื่อในกลุ่ม High Yield โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแบรนด์ “สมหวัง” ซึ่งบริษัทยังตั้งเป้าขยายตัว 15-20% YoY แต่ยังควบคุมการโตของสินเชื่อในกลุ่ม Low Yield อย่างสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถใหม่ ขณะที่ NIM มีทิศทางปรับตัวลง จากการ Repricing ของเงินฝากประจำที่มีผลทางลบมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดยังทรงตัวในระดับสูงเพราะบริษัทมีแผนเปิดสาขาใหม่ของ “สมหวัง” อีก 200 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุมมากขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองมีทิศทางขยับขึ้นสอดรับกับการเพิ่มสินเชื่อ High Yield ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่นของบริษัท
- แม้เรามองทิศทางผลดำเนินงานของ TISCO จะไม่ได้เติบโตอย่างหวือหวา แต่คาดยังสามารถรักษาการเติบโตที่ต่อเนื่อง ทำให้ยังมีความน่าสนใจในแง่ของการเป็นหุ้น Dividend Play โดยเราคาด TISCO จะมีปันผลจ่ายจากกำไรสุทธิ 2H66 ราวหุ้นละ 6 บาท คิดเป็น Div. Yield 6% ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside 15.4% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2567 ที่ 116 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 2.1x) และคาดให้ Div. Yiela ปี 2567 อีก 8.1% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”