บล.ฟินันเซีย ไซรัส:

R&B FOOD SUPPLY (RBF TB)

คาด 4Q23 อ่อนลงชั่วคราว แนะนำรอซื้อ

  • แนวโน้มกำไร 4Q23 อาจอ่อนตัวลง q-q มากกว่าที่เคยคาด คำสั่งซื้อบางส่วนส่งมอบไม่ทัน และคาดมี FX loss ก้อนใหญ่
  • ด้วย 9M23 ที่ทำได้ดี เราปรับเพิ่มกำไรและราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 14 บาท
  • แต่ด้วย Upside ที่จำกัด เราจึงปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ หรือ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

แนวโน้มกำไร 4Q23 อาจอ่อนลง q-q มากกว่าคาด

มีแนวโน้มที่กำไรสุทธิ 4Q23 อาจอ่อนตัวลง q-q มากกว่าที่เคยคาด อาจอยู่ที่ 173 ลบ. (-17.4% q-q, +83.9% y-y) แต่ยังโตดี y-y เพราะฐานต่ำปีก่อน ส่วนสาเหตุที่กำไรจะอ่อนลง q-q ส่วนหนึ่งคาดมีรายการ FX loss สูงราว 22 ลบ. ผลของการแปลงค่ารายการลูกหนี้การค้าต่างประเทศเป็นหลัก หากไม่รวม FX loss คาดกำไรปกติ 4Q23 อาจทำได้ทรงตัว q-q เนื่องจากมีรายได้ส่งออกบางส่วนส่งมอบไม่ทันในไตรมาสนี้ จึงคาดรายได้รวมจะลดลงเล็กน้อย -2% 9-9 แต่ยังโต 13% y-y และคาดอัตรากำไรขั้นต้นอาจปรับลงเล็กน้อยอยู่ที่ 39% จาก 39.4% ใน 3Q23 แต่ดีขึ้นจาก 32.1% ใน 4Q22

บริษัทยังตั้งเป้าปี 2024 โตในอัตราสองหลัก

ยังคาดหวังกำไรจะกลับมาพื้นตัวใน 1Q24 จากคำสั่งซื้อที่ถูกเลื่อนมาส่วนหนึ่ง และด้วยปัจจัยฤดูกาลอีกส่วนหนึ่ง โดยคาดลูกค้ากลุ่มอาหารเครื่องดื่มในประเทศจะมีการวางแผนออกสินค้าใหม่มากขึ้น และคาดต่างประเทศจะเติบโตได้ต่อเนื่องทั้ง จีน อินเดีย และอินโดนีเซียกลับมาฟื้น ส่วนเวียดนามคาดจะฟื้นใน 2Q24 หลังผ่านเทศกาลเต็ด ทั้งนี้บริษัทยังตั้งเป้ารายได้ปี 2024 จะโตต่อ 10-15% y-y และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นพื้นตัว 2-3% สู่ระดับ 40-41% โดยภาพรวมราคาวัตถุดิบในช่วง 1H24 ยังค่อนไปในทางทรงตัวระดับต่ำ และล็อกราคาล่วงหน้าไว้แล้ว ขณะที่ปัญหาเส้นทางขนส่ง Red sea และค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ที่สูงขึ้นยังไม่กระทบต่อ RBF เพราะลูกค้าส่วนใหญ่อยู่แถบเอเชีย และเป็นการขาย FOB เป็นหลัก (ลูกค้ารับผิดชอบค่าขนส่ง)

ปรับเพิ่มกำไร ด้วยสมมติฐานที่สอดคล้องกับบริษัท

แม้แนวโน้มกำไร 4Q23 อาจสะดุดลงชั่วคราว แต่ด้วยกำไรที่ทำได้ดีใน 9M23 และเรา ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของรายได้ต่างประเทศ ด้วยฐานที่ต่ำ โดยเฉพาะตลาดจีนและอินเดีย เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2023-25 ขึ้น 2.8% / 13.6% / 12.1% การเติบโต 41.5% / 28.6% / 12.5% ตามลำดับ ทั้งนี้โรงงานที่อินเดีย คาดจะแล้วเสร็จและเริ่ม Commercial Run ได้ใน 3Q24 ขยับออกจากเดิมเล็กน้อย ซึ่งในช่วง 2H24 บริษัทจะเปลี่ยนจากการรับรู้รายได้ส่งออกไปอินเดีย เป็นส่วนแบ่งกำไรขาดทุน จากการย้ายไปผลิตที่อินเดีย แม้จะเริ่มรับรู้ค่าเสื่อมราว 15 ลบ./ปี แต่อาจถูกหักล้างด้วยรายได้ที่จะสูงขึ้น จึงลุ้นว่าโรงงานอินเดียอาจมีกำไรได้ทันที

ปรับเพิ่มกำไรและราคาเป้าหมาย แต่ปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ

จากการปรับเพิ่มกำไร เราจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 14 บาท จากเดิม 13.5 บาท ปรับลด Target PE เป็น 32x จากเดิม 35x สะท้อนการเติบโตในอัตราที่ลดลง แต่ด้วย Upside ที่จำกัดเหลือเพียง 5.3% จึงปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ หรือ รอซื้ออ่อนตัว

Investment thesis

จุดแข็งของ RBF คือมีฐานลูกค้าอยู่ในอุตสหากรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นสินค้าจำเป็น และมีลูกค้าค่อนข้างหลากหลายในหลายผลิตภัณฑ์สินค้า โดย RBF เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในรสชาติและรสสัมผัส ซึ่งถือเป็นหัวใจของอาหารเครื่องดื่ม และเป็นความลับเฉพาะเจ้าของผลิตภัณฑ์และ RBF ทั้งนี้ RBF มีประสบการณ์ในธุรกิจมาอย่างยาวนาน และให้ความสำคัญกับการวิจัยพัฒนามาโดยตลอดเพื่อสร้างความแตกต่างในผลิตภัณฑ์ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า รวมถึงมีการพัฒนาสูตรเฉพาะสำหรับลุกค้าแต่ละราย ทำให้ยากที่ลูกค้าจะเปลี่ยน Supplier เมื่อผู้บริโภคถูกใจในรสชาติแล้ว

Company profile

RBF ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายส่วนผสมในอาหาร โดยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้า ได้แก่ รสชาติ สีผสมอาหาร ผลิตภัณฑ์เคลือบอาหาร รวมถึงธุรกิจ Trading เช่น สารกันบูด กรดซิตริก เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งผลิตภัณฑ์ได้เป็น 6 กลุ่ม โดยสิ้นปี 2022 บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจาก Food Coating 45.1% ของรายได้รวม รองมาคือ Flavor Fragrance 32.6%, Trading 12.9%, Dried product 6.9%, Frozen 1.5% และ Packaging 1%

www.rbfoodsupply.co.th

Catalysts

ปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 2024 คือ 1) การฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศและต่างประเทศ 2) ต้นทุนวัตถุดิบปรับลดลง 3) การประสบความสำเร็จในการขยายตลาดใหม่ และ 4) การประสบความสำเร็จใน สินค้าใหม่

Risks to our call

ความเสี่ยง 1) กำลังซื้อฟื้นตัวช้ากว่าคาด 2) ราคาวัตถุดิบปรับลงช้ากว่าคาด 3) สินค้าใหม่ไม่ประสบความสำเร็จ และ 4) การ Operate โรงงานใหม่ที่อินเดียล่าช้ากว่าแผน

- Advertisement -