บล.กรุงศรีฯ:
STAR PETROLEUM REFINING (SPRC TB/ SPRC.BK)
SPRC – ประมาณการ 4Q23F : แล้วมันก็จะผ่านไป (TP Bt10.40, BUY)
กลุ่มอุตสาหกรรม | พลังงานและสาธารณูปโภค |
หุ้น | SPRC |
มูลค่าพื้นฐาน | 10.40 |
คำแนะนำ | BUY |
เรายังคงคำแนะนำซื้อ SPRC โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 10.40 บาท อิงจาก P/BV ที่ 1.2x เราคาดว่าบริษัทจะพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 4.5 พันล้านบาท ใน 4Q23F จากที่มีกำไรสุทธิ 4.2 พันล้านบาทใน 3Q23 และ 300 ล้านบาทใน 4Q22 ซึ่งจะฉุดให้ผลประกอบการในปี 2023F พลิกเป็นขาดทุนไปด้วย เราปรับลดประมาณการปี 2023F จากกำไรสุทธิ 4.4 พันล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 1.2 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนถึง market GRM ที่ต่ำเกินคาด และผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันที่สูงเกินคาด อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นได้ในปี 2024 จาก i) อัตราการกลั่นน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ii) market GRM ที่สูงขึ้น และ iii) ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจเชื้อเพลิง
คาดว่าผลประกอบการใน 4Q23F และ 2023F จะพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ
เราคาดว่า SPRC จะขาดทุนสุทธิ 4.5 พันล้านบาทใน 4Q23F จากที่มีกำไรสุทธิ 4.2 พันล้านบาท ใน 3Q23 และ 300 ล้านบาทใน 4Q22 เนื่องจาก ⅰ) market GRM ลดลงเหลือ US$2/bbl (จาก US$8.4/bbl ใน 3Q23 และ US$5.4/bbl ใน 4Q22) และ ii) จะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันสูงถึง 3.5 พันล้านบาท (ขาดทุนจากสต็อก 2 พันล้าน และ lower cost or market หรือ LCM อีก 1.5 พันล้านบาท) จากที่มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 3.6 พันล้านบาทใน 3Q23 และจากที่ขาดทุนจาก สต็อกน้ำมัน 2 พันล้านบาทใน 4Q22 และ iii) มีการปิด Residue Fluid Catalytic Cracking (RFCCU) นาน 37 วัน เราคาดว่า Market GRM จะลดลง qoq เนื่องจาก ⅰ) crack spread ลดลงทั้งของน้ำมันเบนซิน (-34%qoq), น้ำมันเครื่องบิน (-9%qoq) และน้ำมันดีเซล (-22%qoq) และ ii) มีการปิด RFFCU เราคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเป็น 150KBD (+8% qoq) เพราะไม่มีการปิด Diesel Hydro Treating Unit shutdown (DHTU) นาน 20-25 วันเหมือนในไตรมาสก่อน
ปรับลดประมาณการปี 2023F เป็นขาดทุนสุทธิ แต่คาดจะพลิกฟื้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2024
เราคาดว่า SPRC จะพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 1.2 พันล้านบาทในปี 2023 จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 4.4 พันล้านบาท เนื่องจาก ⅰ) เราปรับลดสมมติฐาน market GRM จาก US$5.7/bbl เหลือ US$4.5/bbl ii) ใส่ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน 3.5 พันล้านบาทเข้ามาในประมาณการ เราคาดว่าบริษัทจะพลิกเป็นกำไรสุทธิในปี 2024 จะอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท เนื่องจาก ⅰ) กลับมาใช้งาน SPM ซึ่งจะทำให้ market, GRM เพิ่มขึ้น US$1.1/bbl (เราคาดว่าจะกลับมาเริ่มใช้ SPM ใน 2Q24) ii) กำไรของธุรกิจเชื้อเพลิง ซึ่งเราประเมินแบบอนุรักษ์นิยมไว้ที่ 600 ล้านบาทในปี 2024- 2025F iii) คาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเป็น 163KBD (+8% yoy)
คงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 10.40 บาท
ปัจจัยพื้นฐานใน 1QTD บ่งชี้ถึงการพลิกฟื้นอย่างแข็งแกร่ง qoq จาก i) อัตราการกลั่นน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเป็น 170-175KBD ii) market GRM ที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นเพราะไม่มีการปิดซ่อมบำรุง iii) ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันน่าจะลดลง และ ⅳ) กำไรจากธุรกิจเชื้อเพลิง ทั้งนี้ ราคาหุ้นในปัจจุบัน คิดเป็น P/BV ที่ 1.0x (ค่าเฉลี่ยระยะยาว -1S.D.) ในขณะที่ผลประกอบการที่พลิกฟื้นในปี 2024 จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนให้มีการ re-rate ราคาเป้าหมาย