บล.ฟิลลิป:
STA คาด 4Q66 ขาดทุนลดลง q-q
ซื้อ TP’67: 20.90
ในช่วงครึ่งปีหลังเริ่มมีการจัดหาวัตถุดิบได้ดีขึ้น แต่ซัพพลายยางในไทยออกช้ากว่าที่คาด คาด 4Q66 ปริมาณขายเพิ่มขึ้น q-q แต่ลดลง y-y GPM ฟื้นตัว q-q ได้ตามปริมาณขาย แต่ราคาขายเฉลี่ยที่ดีขึ้น คาดว่าผลประกอบการยังขาดทุนอยู่แต่ลดลง q-q ส่วนปี 67 กฏ EUDR เป็นตัวผลักดันอุตฯ ยางพาราในไทย แนะนำลงทุนหลังราคาหุ้นตอบรับเรื่องผลประกอบการไปแล้ว
งบรวม | 4Q66E | 3Q66 | 4Q65 | % y-у | % q-q | YE66E | YE65 | % y-y |
กำไร | -259 | -410 | 988 | -126.1 | -36.9 | -271 | 4,795 | -105.7 |
EPS | -0.17 | -0.27 | 0.65 | -126.1 | -36.9 | -0.17 | 3.12 | -105.7 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- ขาดทุนลดลง: ในช่วง 3Q66 เริ่มกลับเข้าสู่ช่วงเปิดกรีด จะช่วยให้ 4Q66 มีปริมารขายเพิ่มขึ้น q-q อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ยังลดลง y-y เนื่องจากปริมาณยางในไทยเข้าสู่จุดพีคช้ากว่าปีที่ผ่านมา และยังเห็นการแข่งขันซื้อวัตถุดิบอยู่ ส่วนราคาขายเฉลี่ยคาดเพิ่มขึ้น q-q คาดรายได้ 1.9 หมื่นลบ. -23.7%y-y +14.4%q-q GPM 9.0% ลดลง y-y แต่เพิ่มขึ้น q-q ฟื้นตัวได้ตามราคาขายเฉลี่ยที่ดีขึ้น SG&A to sale 10.5% เพิ่มขึ้น q-q และ y-y จากการปิดค่าใช้จ่ายต่างๆในช่วงสิ้นปี คาดมีขาดทุนสุทธิ 259 ลบ. -126.2%y-y -36.9%q-q รวมทั้งปี 66 ขาดทุน 271 ลบ. -105.7% y-y
- EUDR ผลักดันยางไทย: ราคาหุ้นในช่วงนี้อาจผันผวนตอบรับผลประกอบการของปี 66 ที่คาดว่าจะออกมาขาดทุน แนะนำลงทุนหลังราคาหุ้นตอบรับเรื่องผลประกอบการไปแล้ว ปัจจุบันสถานการณ์วัตถุดิบดีขึ้นตามลำดับ คาดว่าปีนี้จะเริ่มปรับใช้กฎ EUDR เป็นปีที่ดีต่ออุตฯ ยาง คาดจะทำให้ราคาขายสูงขึ้นกว่าการขายแบบเดิมจากการใช้กฎนี้ ราคาพื้นฐาน 20.90 คงคำแนะนำ “ซื้อ”