บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Land and Houses (LH.BK/LH TB)*
แผนธุรกิจในปี 2567 ท้าทายมาก
Event
สรุปประเด็นสำคัญในปี 2566 และ แผนธุรกิจปี 2567
Impact
ปี 2566 ที่ซบเซา
แม้ว่าพรีเซล (ยอดจอง) 4Q66 แข็งแกร่งอยู่ที่ 8.65 พันลบ. (+54% YoY และ +56%QoQ) จากอัตรา take-up ปานกลางที่ 35% ของโครงการใหม่มูลค่า 1.5 หมื่นลบ.ที่ “วันเวลาคอนโด” โดยพรีเซลปี 2566 อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท (-24% YoY) รวมโครงการแนวราบมูลค่าที่ 1.68 หมื่นลบ. (-40% YoY) นับว่าต่ำเป็ประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 2554 ส่วนพรีเซลโครงการคอนโดเพิ่มขึ้น YoY เกือบสามเท่าตัวอยู่ที่ 6.2 พันลบ. ในขณะที่ LH คาดรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยจะตกต่ำอยู่น้อยกว่า 2.0 หมื่นลบ. หรือต่ำกว่าประมาณการของเราราว 5-7% อยู่ที่ 2.1 หมื่นลบ. ท่ามกลางอัตรากำไรขั้นต้นอาจต่ำกว่า 30% สำหรับการขายโรงแรม 2 แห่งเข้ากองทุน REIT คาดมีกำไรอยู่ราว 2.5 พันลบ. (ก่อนภาษี) ทั้งนี้ เราคาดความเสี่ยงด้านต่ำ (downside) เล็กน้อยต่อประมาณการกำไรหลักและกำไรสุทธิของเราในปัจจุบันที่ 6 พันลบ. (-25% YoY) และ 8 พันลบ. (-3% YoY)
LH ตั้งเป้าเชิงรุกในการเติบโตปี 2567F ด้านพรีเซลและรายได้จากฐานต่ำในปี 2566
พรีเซลและรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยปี 2567 ตั้งเป้าไว้ที่ 3.1 หมื่นลบ. (+35% YoY) และ 2.8 หมื่นลบ. (+42 – 45% YoY) ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ +30% นอกจากนั้น LH ตั้งเป้ารายได้จากการให้เช่าและส่วนแบ่งกำไรที่ 8.5 พันลบ.และ 3.9 พันลบ.ตามลำดับ โดยเติบโตอัตราต่ำถึงกลาง ๆ สำหรับการเปิดโครงการใหม่มีเป้าหมายมูลค่า 3.02 หมื่นลบ. (76% เป็นกลุ่มลูกค้าระดับบนและสูง) ลดลง 31% YoY จากฐานสูงในปีก่อนหน้า อีกทั้ง LH มีแผน จะขายห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ที่พัทยาเพื่อเข้ากองทรัสต์ REIT โดยรวมแล้ว guidance ของ LH ปี 2567 ในธุรกิจหลัก ดูเหมือนว่ามองโลกในแง่ดีและสูงกว่าประมาณการของเราพอสมควรแม้ว่าอยู่ในสภาวะอุตสาหกรรมที่ยังอ่อนแอ เราคงประมาณการกำไรหลักและกำไรสุทธิค่อนไปทางอนุรักษ์นิยมอยู่ที่ 7 พันลบ. (+16% YoY) และ 8 พันลบ. (ทรงตัวt YoY) จากความไม่มั่นใจในแผนธุรกิจที่ยังน่าท้าทาย
แนวโน้มธุรกิจให้เช่ายังสดใส
ธุรกิจโรงแรม (15-20% จากรายได้ของ LH) ถือได้ว่าผลการดำเนินงานดีด้วยข้อยกเว้นที่มีอัตราการเข้าพัก (occupancy rate: OR) และรายได้เฉลี่ยต่อวัน(ADR) ของโรงแรม 5 แห่งที่เปิดให้บริการช่วงปี 2552-2561 สูงกว่าระดับช่วงก่อนโรคโควิดอย่างมีนัยยะ โดยที่โรงแรม Grande Centre Point (GCP) Space ที่พัทยาเปิดตั้งแต่ปี 2565 สามารถพลิกเป็นกำไรในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี ส่วน GCP สุรวงศ์เปิดให้บริการเดือนพฤศจิกายน 2566 ก็ประสบความสำเร็จด้วย OR เต็ม 100% ช่วงสัปดาห์คริสต์มาสที่แล้วและปีใหม่
Valuation & action
เราคงคำแนะนำถือหุ้น LH ราคาเป้าหมายที่ 8.70 บาท อิงจาก SOTP (ธุรกิจหลักที่ 4.40 บาทและพอร์ตการลงทุนที่ 4.30 บาท) ทั้งนี้ LH Hotel Leasehold REIT (LHHOTEL.BK/LHHOTEL TB) นับเป็นกองทรัสต์โรงแรม REIT ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดโดยมีมูลค่าตามราคาตลาด (market cap) ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิทั้งหมด (net asset value) ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท (กลุ่มโรงแรม 5 แห่งชั้นนำภายใต้แบรนด์ Grande Centre Point) ถือเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าจับตาถึงแนวโน้มที่สดใสในธุรกิจโรงแรมของ LH
Risks
ภาวะเศรษฐกิจ โอกาสการปฏิรูปนโยบายจากภาครัฐ การให้สินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้นท่ามกลางภาวะหนี้สิน
ภาคครัวเรือนสูงยืดเยื้อ รวมทั้ง การปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ