บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

CENTRAL PLAZA HOTEL (CENTEL TB)

อยู่ในช่วงเตรียมพร้อมสำหรับช่วงการเติบโตใหม่

  • คาดกำไรปกติ 4Q23 ที่ 367 ลบ. ดีขึ้นจาก 3Q23 จาก RevPAR รวมที่โต 25-30% q-q
  • คาดกำไรปกติจะโต 29% ในปี 2024 แต่ยังต่ำกว่าระดับก่อนโควิด โดยน่าจะได้ปัจจัยกดดันจากค่าใช้จ่ายก่อนดำเนินงานของ 2 โรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์
  • คงคำแนะนำซื้อ หลังปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 50 บาท (DCF)

รายได้จากธุรกิจโรงแรมน่าจะโต 23% y-y ใน 4Q23

เราคาดว่า RevPAR ของโรงแรมในไทยจะโต 18% y-y ใน 4Q23 และสูงกว่าระดับก่อนโควิดอยู่ 15% โดยได้ปัจจัยหนุนจาก Centara Ladprao และโรงแรมในต่างจังหวัด นอกจากนี้ RevPAR ของโรงแรมในดูไบก็น่าจะโต 13% y-y จากอัตราค่าห้องรายวันเฉลี่ย (ADR) ที่อยู่ในเกณฑ์ดีอัตราการเข้าพัก (OCC rate) ของโรงแรมในโอซาก้าน่าจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 77 พร้อม ADR ที่ประมาณ 7,100 บาท (เทียบกับ 67% และ 6,176 บาทใน 3Q23) ปัจจัยดังกล่าวน่าจะทำให้ share income จากโรงแรมในโอซาก้าใกล้จุดคุ้มทุน (เทียบกับที่เคยขาดทุน 27 ลบ. ใน 3Q23) ในด้านลบ RevPAR ของโรงแรมในมัลดีฟส์น่าจะลดลง 5% y-y จากการแข่งขันที่รุนแรง ในภาพรวมเราคาดว่าผลประกอบการของธุรกิจโรงแรมจะพลิกจากที่เคยขาดทุน 55 ลบ. ใน 3Q23 เป็นกำไร 240 ลบ. ใน 4Q23 โดยมีปัจจัยผลักดันจากฤดูการท่องเที่ยว แต่น่าจะลดลง y-y จาก 359 ลบ. ใน 4Q22 โดยมีปัจจัยกดด้นจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หายไป (116 ลบ. ใน 4Q22)

กำไรจากธุรกิจอาหารน่าจะค่อนข้างทรงตัว q-q

ใน 4Q23 เราคาดว่ายอดขายสาขาเดิม (SSS) จะโต 2% y-y โดยมีปัจจัยหนุนจาก KFC และ Auntie Anne’s ในขณะที่ยอดขายสาขารวม (TSS) จะโต 7% y-y รายได้จากธุรกิจอาหารน่าจะโต 3% y-y เป็น 3.2 พัน ลบ. สูงกว่าระดับก่อนโควิด 5% เราคาดว่า EBITDA margin ของธุรกิจอาหารจะทรงตัว q-q ที่ 18% เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ลดลงน่าจะชดเชยกับค่าใช้จ่ายสำรองจากการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร ด้วยเหตุดังกล่าวกำไรจากธุรกิจอาหารจึงน่าจะทรงตัว q-q ที่ 127 ลบ. ในภาพรวมเราคาดว่ากำไรปกติของ CENTEL จะกระโดดเพิ่มจาก 74 ลบ. ใน 3Q23 เป็น 367 ลบ. ใน 4Q23

Organic RevPAR จะโต 4-13% ในแต่ละพอร์ตในปี 2024

เราคาดว่ากำไรปกติของ CENTEL จะโต 29% เป็น 1.5 พัน ลบ. ในปี 2024 โดยมีปัจจัยผลักดันจากการเติบโตของ organic RevPAR ของพอร์ตในไทย (+8%), มัลดีฟส์ (+13%) และดูไบ (+4%) รวมถึงการพลิกฟื้นของโรงแรมในโอซาก้า อย่างไรก็ดีกำไรปกติน่าจะต่ำกว่าปี 2019 ที่ 1.7 พันลบ. โดยมีปัจจัยกดดันจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายก่อนดำเนินงานประมาณ 200 ลบ. ของสองโรงแรมใหม่ในมัลดีฟส์ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการใน 4Q24-1Q25

ปรับลดประมาณการกำไรปกติ

เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2023-25 ลง 13-22% และได้ราคาเป้าหมายปี 2024 ใหม่ที่ 50 บาท (DCF) CENTEL มีการซื้อขายที่ 30x ของค่า 2025E P/E (เราใช้ 2025 เป็นปีฐานเนื่องจากน่าจะเป็นปีแรกที่กำไรกลับเป็นปกติ) ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีในอดีตที่ 34x โดยหุ้นน่าจะมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวที่ดีของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึง

- Advertisement -