บล.เอเซีย พลัส:

PTTGC คาด 4Q66 กำไรสุทธิดีขึ้น มีตัวช่วย แต่กำไรปกติลดลง QoQ

คาดกำไรสุทธิงวด 4Q66 อยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 190.2%QOQ จากรายได้พิเศษช่วยไว้หลายรายการ ถึงแม้จะบันทึกกลับเป็นขาดทุนสต๊อกน้ำมันสูง แต่หากพิจารณากำไรปกติคาดว่าจะลดลง 55.5%QOQ มาอยู่ราว 1.0 พันล้านบาท ถูกกดดันหลักจากธุรกิจโรงกลั่นตาม MARKET GRM ที่ลดลงมาอยู่ราว 8.5 จาก 12.6 เหรียญฯต่อบาร์เรล และธุรกิจโอเลฟินส์ และโพลีเมอร์ที่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงหลายโรงงาน ทำให้ในงวดนี้เผชิญกับผลขาดทุนเพิ่มขึ้น ส่วนทิศทางกำไรปกติ 1Q67 คาดทรงตัวหรืออาจอ่อนตัวเล็กน้อย QOQ ไม่มีปัจจัยบวกโดดเด่น

มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2567 ที่ 36 บาทต่อหุ้น ภายใต้รวมผลกระทบจากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯใหม่ของไทยแล้ว ถึงแม้ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาคาดจะตอบรับผลลบเรื่องโครงสร้างราคาก๊าซฯ และผลการดำเนินงานที่ยังไม่สดใส และการฟื้นตัวล่าช้าจากจีนไปแล้วระดับหนึ่ง แต่ในช่วงสั้นยังไม่มีปัจจัยเร่งบวกเข้ามา

คาดกำไรสุทธิ 4Q66 เพิ่มขึ้น 190.2%qoq ได้รายได้พิเศษช่วยไว้ ขณะที่คาด Norm Profit ลดลง 55.5%qoq

ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรสุทธิงวด 4Q66 อยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 190.2%qoq ซึ่งเป็นผลหลักมาจากรายการพิเศษที่ในงวดนี้สุทธิแล้วพลิกกลับเป็นรายได้พิเศษรวม 3.1 พันล้านบาท จากงวดก่อนหน้าที่สุทธิแล้วค่าใช้จ่ายพิเศษรวม 826 ล้านบาท ถึงแม้ในงวด 4Q66 จะบันทึกกลับเป็นขาดทุนสต๊อกน้ำมัน รวม NRV ที่ราว 3.3 พันล้านบาท จากงวดก่อนนหน้าที่บันทึกเป็นกำไรจากสต๊อกน้ำมันรวม NRV ที่ 3.7 พันล้านบาท ตามราคาปิดน้ำมันดิบดูไบสิ้นงวด 4Q66 ที่ลดลงมาอยู่ที่ 77 เหรียญฯต่อบาร์เรล จากปิดสิ้นงวด 3Q66 ที่ 96 เหรียญฯต่อบาร์เรล แต่อย่างไรก็ตามในงวด 4Q66 ได้รายได้พิเศษมาช่วยหนุนไว้หลายรายการดังนี้ 1) บันทึกกลับเป็นกำไรจาก hedging ราว 505 ล้านบาท จากงวดก่อนหน้าบันทึกขาดทุนจาก hedging 2.7 พันล้านบาท 2) คาดบันทึกกลับเป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 2.2 พันล้านบาท จากบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.1 พันล้านบาท ในงวดก่อนหน้า ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 34.3 จาก 36.7 บาทต่อเหรียญฯ 3) บันทึกกำไรจากการขายหุ้น 50% ในบริษัทจีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่นส์ จำกัด (GCL) ซึ่งแบ่งเป็น capital gain และกำไรจากการตีมูลค่า fair value ของเงินลงทุนที่เหลืออีก 50% รวมราว 3.0 พันล้านบาท เทียบกับงวดก่อนหน้าที่บันทึกขาดทุนจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์อันเนื่องมาจากเหตุขัดข้องการเตรียมดำเนินการโครงการคลังสินค้ารวม 625 ล้านบาท และ 4) บันทึกกำไรจาการซื้อคืนหุ้นกู้บางส่วนในขณะที่ bond yield อยู่สูง ทำให้มี discount ราว 20% คิดเป็นมูลค่าราว 1.5 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตามหากตัดรายการพิเศษ พิจารณาเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานปกติในงวด 4Q66 คาดว่าจะปรับตัวลดลง 55.5%qoq มาอยู่ราว 1.0 พันล้านบาท ถูกกดดันหลักจากธุรกิจโรงกลั่นที่ผลการดำเนินงานปรับตัวลดลงตาม
Market GRM ที่คาดจะลดลงมาอยู่ราว 8.5 จาก 12.6 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นไปตาม crack spread ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวลดลง QoQ ทุกผลิตภัณฑ์ ทั้ง Gasoil (สัดส่วนราว 60-70%), Jet (สัดส่วนราว 3-5%), Low Sulfur Fuel Oil (สัดส่วนราว 15%) เป็นต้น รวมถึง crude premium ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกราว 1 เหรียญฯต่อบาร์เรล จากงวดก่อนหน้า ขณะที่ปริมาณขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมคาดจะทรงตัวจากงวดก่อนหน้าที่ราว 16.2 ล้านบาร์เรล ภายใต้ Utilization rate ที่ 105%

นอกจากนี้ในงวด 4Q66 ยังถูกกดดันจากธุรกิจโอเลฟินส์ และโพลีเมอร์ที่ผลการดำเนินงานในงวด 4Q66 ยังเผชิญกับผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจากงวดก่อนหน้า เนื่องจากมีแผนหยุดซ่อมบำรุงจำนวนหลายโรงงานในงวดนี้ ทั้งโรงงานโอเลฟินส์ I1 (กำลังการผลิตเอทิลีน 4.6 แสนตันต่อปี โพรพิลีน 1.3 แสนตันต่อปี) ที่ปิดซ่อมเกือบทั้งไตรมาส ส่งผลให้ Utilization rate ของโรงงานโอเลฟินส์ลดลงมาอยู่ที่ 80% จาก 89% ในงวดก่อนหน้า เช่นเดียวกับโรงงานโพลีเมอร์ที่มีหยุดเดินเครื่อง เพื่อซ่อมบำรุงทั้งโรง HDPE, LDPE, LLDPE เฉลี่ยราว 20-24 วัน ในงวด 4Q66
ส่งผลให้ Utilization rate ของโรงงานโพลีเมอร์ลดลงมาอยู่ราว 98% จาก 109% ในงวดก่อนหน้า ซึ่งส่งผลให้ปริมาณขายลดลงตามกำลังการผลิตที่ลดลง อีกทั้งในส่วนของราคาผลิตภัณณฑ์โดยเฉลี่ยปรับตัวลดลงจากงวดก่อนหน้าราว 10 เหรียญฯต่อตัน รวมถึงได้รับปัจจัยลบจากต้นทุน LPG (ใช้เป็น feedstock ในงวด 4Q66 ราว 10% ของ feedstock รวม) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงมาอยู่ที่ 613 จาก 469 เหรียญฯต่อตัน ในงวดก่อนหน้า

ขณะที่ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Intermediate และ Performance คาดจะทรงตัวใกล้เคียงกับงวดก่อนหน้า โดยในส่วนของกลุ่ม Intermediate คาด spread BPA ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 243 จาก 200 เหรียญฯต่อตัน จะสามารถช่วยชดเชยได้หมดกับแผน shutdown BPA และ Phenol ในงวดนี้ที่ 18 วัน และ 30 วัน ตามลำดับ และช่วงชดเชยธุรกิจ EO /Glycol ที่ปรับตัวลงตาม spread ที่ลดลงจากต้นทุนเอทิลีนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ด้วย เช่นเดียวกับธุรกิจ Performance แม้ปริมาณขายของ Allnex จะปรับตัวลดลงตามฤดูกาลช่วงปีใหม่ลูกค้าหยุด แต่มีปัจจัยบวกเล็กๆน้อยๆมาช่วยประคองตัวได้

มีเพียงธุรกิจอะโรเมติกส์ที่คาดผลการดำเนินงานงวด 4Q66 เห็นการฟื้นตัวจาก 3Q66 ตาม Market BTX P2F ที่คาดจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ราว 175 จาก 165 เหรียญฯต่อตัน (spread Px ลดลง แต่ถูกชดเชยได้กับ spread Bz และ by product LPG ที่เพิ่มขึ้น) รวมถึงคาด Utilization rate จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 90% จาก 69% ในงวดก่อนหน้า ตามการกลับมาเดินเครื่องปกติของโรง Aro1 (กำลังการผลิต 1.19 ล้านตันต่อปี) ที่มีหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงตามแผน 37 วัน ไปใน 3Q66

โดยรวมแล้วคาดผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 จะยังคงเป็นกำไรสุทธิ และกำไรปกติได้บางๆที่ 59 ล้านบาท และ 361 ล้านบาท ตามลำดับ เทียบกับปี 2565 ที่เผชิญขาดทุนสุทธิ 8.7 พันล้านบาท และเป็นกำไรปกติสูงถึง 1.9 หมื่นล้านบาท

ยังหวัง 2567 ปิโตรเคมีฟื้นตัว ส่วนค่าการกลั่นลงสู่ภาวะปกติ

เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการผลการดำเนินงานปี 2567 ที่จะค่อยๆเห็นการฟื้นตัวกลับมาในส่วนของธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งให้น้ำหนักการฟื้นตัวอยู่ในช่วง 2H67 ตามทิศทางเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นความหวังหลักในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นคาดค่าการกลั่นจะกลับสู่ภาวะปกติสะท้อน demand และ supply ที่แท้จริง โดยกำหนดสมมติฐานค่าการกลั่นไว้ที่ 6 เหรียญฯต่อบาร์เรล ลดลง YoY นอกจากนี้ในประมาณของฝ่ายวิจัยได้รวมผลกระทบเบื้องต้นของการปรับโครงการราคาก๊าซฯของประเทศไทยใหม่เป็น Single Pool Gas ภายใต้หลักความระมัดระวังไว้ก่อน ถึงแม้ทาง PTTGC จะชี้แจงว่ายังอยู่ระหว่างการปรึกษาหาแนวทางแก้ไขกับทาง PTT อย่างไรก็ตามหากมีแนวทางที่เป็นบวกมากขึ้นก็จะถือเป็น upside จากประมาณการได้

ทั้งนี้ในช่วงสั้นฝ่ายวิจัยคาดทิศทางผลการดำเนินงานปกติงวด 1Q67 อาจจะทรงตัว หรือมีโอกาสเห็นการอ่อนตัวลงจากงวด 4Q66 ถูกกดดันจากธุรกิจโรงกลั่นที่คาดค่าการกลั่นอาจจะลดลงมาบ้างตาม spread กลุ่ม middle distillate 1QTD ที่ลดลงจากงวด 4Q66 เช่นเดียวกับ spread กลุ่มอะโรเมิกส์ในผลิตภัณฑ์ Bz ที่ดีดตัวแรงในงวด 4Q66 คาดในงวด 1Q67 อาจจะเห็นการย่อตัวลงมาบ้าง แต่ทั้งนี้คาดจะปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มโอเลฟินส์และโพลีเมอร์ จากการกลับมาเดินเครื่องปกติไม่หยุดซ่อมเช่นที่เกิดขึ้นในงวด 4Q66

ส่วนของรายการพิเศษอื่นๆในงวด 1Q67 หากราคาปิดน้ำมันดิบดูไบช่วงสิ้นงวด 4Q66 อยู่เหนือ 77 เหรียญฯต่อบาร์เรล จะบันทึกเป็นกำไรจากสต๊อกน้ำมัน แต่ถ้าอยู่ต่ำกว่าจะบันทึกกลับเป็นขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน เบื้องต้นคาดในงวด 1Q67 โอกาสที่จะบันทึกกำไรหรือขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันอาจจะไม่มากนัก เช่นเดียวกับในส่วนของ hedging ที่คาดมีโอกาสที่จะบันทึกขาดทุน/กำไรจาก hedging ไม่มากเช่นกัน

การดำเนินการด้าน ESG ของ PTTGC

ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental): มุ่งเน้นการดำเนินงานที่สอดคล้องตามแผน Decarbonization Roadmap โดยตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 20 ภายในปี 2573 และมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 50 ในปี 2593 ทั้งนี้
บริษัทฯ มีการจัดทำนโยบายและแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการพลังงานไว้อย่างชัดเจน ดังนี้

Efficiency-Driven: การดำเนินโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่ประสิทธิภาพการใช้พลังงานหลากหลายโครงการ เช่น โครงการอนุรักษ์พลังงาน โครงการ Maptaphut Integration (MTPi) โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการใช้พลังงานทดแทน เป็นต้น

Portfolio-Driven : การลงทุนในธุรกิจ High Value Business (HVB) ธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Chemical Business) และธุรกิจที่สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน โดย บริษัทฯ ขยายการลงทุนในบริษัท allnex Holding GmbH ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของโลกในอุตสาหกรรม Coating Resins และ Crosslinkers รวมถึงการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ VNT เพื่อช่วยต่อยอดธุรกิจปลายน้ำของบริษัทฯ และการปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นใน GPSC เพื่อมุ่งเน้นธุรกิจในกลุ่มปิโตรเคมีมากขึ้น อีกทั้งได้พัฒนาระบบ YOU เทิร์น PLATFORM เพื่อบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วกลับมาเป็นสารตั้งต้นในการผลิตอย่างครบวงจร

Compensation-Driven: การดำเนินโครงการฟื้นฟู และเสริมสร้างสมดุลของระบบนิเวศของป่าร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสังคมรวมถึงชุมชนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิโครงการปลูกป่านิเวศระยองวนารมย์ ซึ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย และโครงการฟื้นป่ารักษ์น้ำ เขาห้วยมะหาด รวมถึงยังมีการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย และลงทุนใน CorporateVenture Capital (CVC) เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม Carbon Capture Utilization and Storage (CCUS) ในการดักจับและกักเก็บคาร์บอนในชั้นบรรยากาศและเทคโนโลยีล้ำสมัยอื่นๆ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดกลยุทธ์การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในกระบวนการผลิต นำน้ำกลับมาหมุนเวียนใช้ประโยชน์ ตลอดจนการหาแหล่งน้ำสำรองเพื่อลดผลกระทบต่อการใช้น้ำจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ผ่านการเครือข่ายร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม และโครงการภายในองค์กร รวมถึงการบริหารจัดการของเสีย และการควบคุมคุณภาพอากาศ อาทิ โครงการซ่อมบำรุงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดการใช้ทรัพยากร และลดการเกิดของเสียที่เกิดจากกิจกรรมซ่อมบำรุงทั้งประเภทอันตราย และไม่อันตรายอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดทำแผนการยกเลิกใช้สารอันตรายซึ่งทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน โดยยกเลิกการใช้สาร R-22 และปรับเปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็นชนิด Non-CFC ภายในปี 2573 เป็นต้น

ด้านสังคม (Social): มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าสู่สังคมยั่งยืนอย่างต่อเนื่องโดยการเพิ่มสัดส่วน การดำเนินงานกิจการเพื่อสังคม(Social Enterprise: SE) และการสร้างสรรคุณค่าธุรกิจคู่สังคม (Creating Shared Value: CSV) รวมถึงการผสานการดำเนินงานเข้ากับโครงการด้าน Circularity และForestation ภายใต้ Decarbonization Roadmap มีแผนจัดทำการประเมินผลลัพธ์ทางสังคม หรือคุณค่าทางสังคมที่เกิดจากการดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่า และยกระดับการดำเนินงานโครงการต่างๆให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการส่งเสริมและพัฒนาสังคม และชุมชนรอบข้างผ่านการจัดทำโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ Community Waste Model ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนธนาคารคัดแยกขยะรีไซเคิล ชุมชนวัดชากลูกหญ้าจัดตั้ง Recycle Hub ณ ชุมชนวัดชากลูกหญ้า ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการขยะอย่างครบวงจร จากต้นทางถึงปลายทางแห่งแรกในจังหวัดระยอง ส่งผลให้สามารถรวบรวมปริมาณขยะรีไซเคิลได้มากกว่า 50,000 กิโลกรัมต่อปี และสนับสนุนการจ้างงานสร้างอาชีพให้กับชุมชน ส่งผลให้วิสาหกิจชุมชนมีรายได้มากกว่า 440,000 บาท ต่อปี มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ได้แก่ LUFFALA Room Diffuser: Recreation Series น้ำมันหอมระเหยปรับอากาศโครงการ โครงการ Rayong Organic Living ซึ่งส่งเสริมการปลูกสมุนไพร 4 ชนิด ได้แก่ สะระแหน่ ว่านสาวหลง จิงจูฉ่าย และเร่วหอม ด้วยวิถีอินทรีย์ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯ ร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา และชุมชนในพื้นที่จังหวัดระยอง ดำเนินโครงการ GC รวมพลังรักษ์น้ำตั้งแต่ปี 2560 เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งในพื้นที่ พร้อมทั้งสนับสนุนให้ชุมชนมีน้ำสะอาด สำหรับอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ และยังจัดทำโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน (ระบบปิด) เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็ม รวมถึงปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมขังให้แก่เกษตรกรชาวสวน โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายระยะยาวในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมทั้งมุ่งสร้างการพัฒนาเชิงสังคมในวิถีของการสร้างคุณค่าทางธุรกิจ ให้เป็นร้อยละ 70 และการบริจาคสู่สังคมให้เป็นร้อยละ 30 ตั้งแต่ปี 2566 และท้ายที่สุดคือการมุ่งไปสู่การเป็น Partner of Choice ภายในปี
2568

ด้านการกำกับดูแล (Governance): ยกระดับการกำกับดูแล และติดตามการดำเนินงานด้านความยั่งยืน โดยขยายขอบเขตการกำกับดูแลของคณะกรรมการย่อยต่างๆ รวมถึงการขยายผลแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนให้ครอบคลุมไปยังกลุ่มบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจัดทำการประเมินมูลค่าการดำเนินงานด้าน ESG เพื่อยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมด้านความยั่งยืนภายในองค์กรผ่านการดำเนินงาน และปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของกลุ่มบริษัทฯ ทุกคนยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยยึดถือแนวปฏิบัติที่เป็นสากลทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ แนวปฏิบัติตลาดหลักทรัพย์ฯ CG Code ของสำนักงาน ก.ล.ต. ASEAN CG Scorecard Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) เป็นต้น และมุ่งมั่นพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามหลักมาตรฐานสากลให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันได้แก่การคำนึงถึงสิทธิของผู้ถือหุ้น การ
ปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน การให้ความสำคัญกับบทบาทของผู้มีส่วนได้เสียการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ โดยนำมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงาน เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง ในทุกประเทศที่เข้าไปลงทุน

ประเด็นความเสี่ยง

1. การหยุดฉุกเฉินของโรงกลั่น โรงงานโอเลฟินส์ และโรงงานอะโรเมติกส์ (UNPLANNED SHUTDOWN)

2. ค่าการกลั่น และ SPREAD ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ไม่ได้เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้

3. การแทรกแซงของรัฐในการกำหนดราคาต้นทุนวัตถุดิบและราคาผลิตภัณฑ์

4. การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยง COUNTRY RISK

- Advertisement -