บล.พาย

BBL: Bangkok Bank PCL ผลงานใน 4Q23 เด่นที่คุณภาพสินเชื่อ

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 192 บาท เลือก BBL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร เนื่องจาก 1) งบดุลแข็งแกร่งพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน 2) อัตราการขยายตัวของกำไรโดดเด่น และ ROE ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง และ 3) มูลค่าหุ้นไม่แพง โดยกำไรสุทธิใน 4Q23 อยู่ที่ 8.9 พันล้านบาท (+17.1% YoY, -21.9% QoQ) ทำให้กำไรสุทธิปี 2023 เติบโต 42.1% คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น NPL ratio ลดลงที่ 2.7% และ Coverage ratio สูงขึ้นที่ 314.7% ทั้งนี้ เราคาดกำไรสุทธิในปี 2024 จะเติบโตชะลอลงที่ 10.4% เพราะ NIM ที่ทรงตัว แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เราคาดว่าสินเชื่อจะกลับมาขยายตัวได้ในปี 2024 และคาดว่า ROE ยังเป็นขาขึ้น และกลับมาเท่ากับระดับในปี 2019 ที่ 8.5% แม้แนวโน้มกำไรจะเติบโตชะลอตัวลง ด้านมูลค่าหุ้น เรามองว่ายังไม่แพง ปัจจุบัน ซื้อขายที่เพียง 0.5x PBV’24E หรือ -ISD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี

กำไรสุทธิในปี 2023 เติบโตแข็งแกร่ง 42.1% YoY

  • กำไรสุทธิใน 4Q23 ต่ำกว่าคาด 6% ที่ 8.9 พันล้านบาท (+17.1% YoY, -21.9% QoQ) เนื่องจากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานมากกว่าคาด โดยการเติบโตที่แข็งแกร่ง YoY ได้อานิสงค์จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) สูงขึ้น เพราะการขยายตัวของส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) และผลขาดทุนจากมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรขาดทุน (FVTPL) ลดลงแต่กำไรสุทธิหดตัว QoQ เพราะค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้นจากปัจจัยฤดูกาล โดยกำไรสุทธิในปี 2023 เติบโตแข็งแกร่ง 42.1% YoY ที่ 41.6 พันล้านบาท หนุนจาก NII ที่เพิ่มขึ้น
  • สินเชื่อใน 4Q23 หดตัว 1.9% QoQ จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง และรายปลีกลดลง ทำให้สินเชื่อปี 2023 ลดลง 0.4% YoY
  • วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้ NIM ใน 4Q23 ปรับสูงขึ้นเป็น 3.2% และ NIM เฉลี่ยในปี 2023 เพิ่มเป็น 3% (2022: 2.4%)
  • คุณภาพสินเชื่อแข็งแกร่ง NPL ratio ปรับลดลงที่ 2.7% (2022:3.1%) ทำให้ Coverage ratio ปรับสูงขึ้นเป็น 314.7% สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารแข็งแกร่งพร้อมรับมือกับความผันผวนในอนาคต

ROE เป็นขาขึ้น แม้การเติบโตของกำไรปี 2024-25 ชะลอตัว

  • วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นสิ้นสุดลงในปี 2023 และมีแนวโน้มอาจจะปรับลดลงในปี 2024 เราปรับลดสมมติฐาน NIM เฉลี่ยปี 2024-25 ลง 10 bps เหลือ 3% อย่างไรก็ดี คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตเร่งตัวขึ้น ที่ 3.5% (2023: -0.4%) กอปรกับธนาคารมีระดับสำรองหนี้ฯ สูง ทำให้สามารถปรับลด Credit cost ลงได้ โดยตั้งสมมติฐาน Credit cost ปี 2024 ที่ 120 bps (2023: 126 bps)
  • เราปรับคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2024-25 ลดลง 3.7%/3% และคาดกำไรสุทธิปี 2024-25 จะเติบโตชะลอลงที่ 10.4%/9.4% YoY
  • แม้คาดกำไรปี 2024 จะโตชะลอตัวลง แต่ ROE จะยังเป็นทิศทางขาขึ้น สะท้อนว่าความสามารถการทำกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องที่ 8.5% ในปี 2024 เท่ากับมาเท่าระดับ 8.5% ในปี 2019

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 192 บาท

ด้วยมุมมองบวกต่อ ROE ที่เพิ่มขึ้น และคุณภาพแข็งแกร่ง เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”แต่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานเหลือ 192 บาท (เดิม 203 บาท) สะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลดลง ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 8.5%, Terminal growth 2%) อิง 0.66× PBV’24E หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี

- Advertisement -