บล.กรุงศรีฯ:
BANGKOK BANK (BBL TB/ BBL.BK)
BBL – กำไรต่ำกว่าที่คาดเพราะ Non-NII และ OPEX (UNRATED)
กลุ่มอุตสาหกรรม | ธนาคาร |
หุ้น | BBL |
มูลค่าพื้นฐาน | 0.00 |
คำแนะนำ |
- Highlights from 4Q23 and FY23 results
กำไรสุทธิใน 4Q23 ต่ำกว่า consensus คาดไป 13%
(i) กำไรสุทธิของ BBL ใน 4Q23 อยู่ที่ 8.8 พันล้านบาท (+17% yoy, -22% qoq) ต่ำกว่า consensus คาด 13% เพราะรายได้ Non-NII ที่น้อยกว่าคาด และ OPEX ที่สูงกว่าที่คาด
(ii) กำไรสุทธิในปี FY23 อยู่ที่ 4.16 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 42% yoy เพราะ รายได้ NII เพิ่มขึ้น (+28% yoy) จากการที่ NIM สูงขึ้น (อยู่ที่ 3.02% ในปี FY23 จาก2.42%ในปีFY22) ในขณะที่การขยายตัวของสินเชื่อค่อนข้างทรงตัวyoy
(iii) รายได้ Non-NII ทรงตัว yoy ในปี FY23 แต่ต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ ในตลาด เนื่องจากกำไรจากการขายสินทรัพย์ต่ำกว่าที่คาด
(iv) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) เพิ่มขึ้น 18.5% yoy ในปี FY23 เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นสำหรับลดต้นทุนระยะยาวเช่น IT
(v) Credit cost ในปี FY23 อยู่ที่ 1.26% เพิ่มขึ้นจาก 1.22% ในขณะที่สัดส่วน Coverage ratio เพิ่มขึ้นสูงที่สุดเป็น 314.7% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2023 (จาก 260.8% yoy) ขณะที่สัดส่วน NPL ลดลงเหลือ 2.7% จาก 3.1% ในเดือน ธันวาคม 2022 และ 3.0% ในเดือนกันยายน 2023
- Outlook
เตรียมตัวเกินเพียงพอเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในปี 24F
เนื่องจากเราคาดว่าสินเชื่อจะโตในระดับต่ำในปี FY24F (+1-2% yoy) และ NIM จะ ลดลงเล็กน้อย yoy เราจึงคาดว่า NII น่าจะค่อนข้างทรงตัว yoy ในขณะที่ OPEX น่าจะยังเพิ่มขึ้น และสัดส่วน C/I น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี FY23 จากการ ลงทุนด้าน digitalization และค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ทั้งนี้ ยังต้องติดตามคุณภาพ สินทรัพย์อย่างใกล้ชิดใน 1Q24F แม้ว่าสัดส่วน NPL จะดีขึ้น qoq ก็ตาม เราคาดว่า NPL จะยังอยู่ในช่วง 2.8-3.0% ในปี FY24F ในขณะที่คาดว่าธนาคารจะยังใช้ แนวทางในการจัดการ NPLs อย่างเช่นการ write-off เราเชื่อว่าสัดส่วน coverage ratio ที่สูงของ BBL เกินพอที่จะรองรับความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจในปี 2024F
- Implication
ราคาเป้าหมายตาม Consensus อยู่ที่ 200 บาท โดยมีนักวิเคราะห์ 15 ราย แนะนำซื้อ
เรายังคงมอง Neutral กับ BBL เพราะ 1) มีสัดส่วน coverage ratio สูงที่สุด ซึ่งจะเป็นส่วนรองรับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และความกังวลด้าน คุณภาพสินทรัพย์ของภาคธนาคารในปี 24F นี้ 2) คาดว่ากำไรสุทธิจะค่อนข้างทรงตัว yoy ได้ ในปี FY24F ในขณะที่คุณภาพสินทรัพย์จะยังอยู่ในเกณฑ์ดี (เพราะมีสัดส่วน ของสินเชื่อคุณภาพสูงอยู่ในระดับสูงกว่าธนาคารอื่นๆ) ซึ่งน่าจะทำให้เงินปันผลจะ ทรงตัวอยู่ได้ 3) การลงทุนสำหรับรองรับ digital banking ในอนาคต จะช่วยลด ต้นทุน OPEX โดยรวมได้ในระยะยาว และ 4) ROE มีแนวโน้มดีขึ้น (เป็น 8.0% ในปี FY23จาก5.9%yoyในปีFY22และมีแนวโน้มจะทรงตัวและ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องได้)