บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
Royal Plus (PLUS)
คาดกำไรปกติจะกลับมาสดใสอีกครั้งใน 1Q67
- Action TRADING (Maintain)
- TP upside (downside) +13.2%
- Close Jan 18, 2024 Price (THB) 6.45
- 12M Target (THB) 7.30
- Previous Target (THB) U.R.
What’s new?
- คาดกำไรปกติใน 4Q66 ที่ 34 ลบ. ลดลง -40.0% QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Low season ของธุรกิจส่งออก แต่เติบโต +22.5% Yoy จากการเริ่มรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่ในกลุ่มน้ำมะพร้าวผสมวุ้นมะพร้าว (MABU Coco)
- ส่วนแนวโน้มกำไรปกติใน 1Q67 คาดกลับมาเติบโต QoQ และ YoY จากการผ่านพ้นช่วง Low season และฐานที่ต่ำใน 1Q66 ประกอบกับยอดขายในสหรัฐที่กลับเข้าสู่ระดับปกติ และการรับรู้รายได้จากสินค้า MABU Coco เต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก
Our view
- แนวโน้มกำไรปกติปี 2567 คาดกลับมาเติบโต YoY จากแนวโน้มยอดขายสินค้าน้ำนมมะพร้าวและน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- แต่จากผลประกอบการใน 3Q66 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ประกอบกับประมาณการปี 2567 ของเรายังมองเป็น Conservative ต่อความเสี่ยงจากลูกค้าจีนที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด ส่งผลให้เราปรับกำไรปกติปี 2566-2567 ลง 20.4% และ 12.6% ตามลำดับ
- จากการปรับประมาณการลงส่งผลให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 7.30 บาท คงคำแนะนำ “TRADING”
กำไรปกติใน 4Q66 ลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Low season
เราคาดกำไรปกติของ PLUS ใน 4Q66 ที่ 34 ลบ. ลดลง -40.0% QoQ เนื่องจากเป็นช่วง Low season ของธุรกิจส่งออก ประกอบกับเป็นช่วงฤดูหนาวของสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้ยอดขายสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มเบาบางลงในช่วงท้ายปี แต่เติบโต +22.5% YoY จากการเริ่มรับรู้รายได้จากสินค้าใหม่ในกลุ่มน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าว (MABU Coco) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดอยู่ที่ 30.0% ลดลงจาก 31.3% ใน 3Q66 จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลงตามยอดขาย แต่สูงขึ้น YoY จากการรับรู้ผลของการปรับขึ้นราคาขายใน 1Q66 ซึ่งหากกำไรปกติออกมาตามคาด กำไรปกติของทั้งปี 2566 จะอยู่ที่ 155 ลบ. ต่ำกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ 194 ลบ. และคาดบริษัทจะจ่ายเงินปันผล 0.10 บาท/หุ้น อิง Dividend payout Ratio ที่ 40.0% หรือคิดเป็น Div.Yield ที่ 1.5%
คาดกำไรจะกลับมาสดใสอีกครั้งใน 1Q67
เราประเมินแนวโน้มกำไรปกติใน 1Q67 จะกลับมาเติบโต QoQ และ YoY จากการผ่านพ้นช่วง Low season และฐานที่ต่ำใน 1Q66 ประกอบกับยอดขายในสหรัฐที่กลับเข้าสู่ระดับปกติ และการรับรู้รายได้จากการน้ำสินค้า MABU Coco เข้าไปจำหน่ายในยุโรป, อินเดีย, ตะวันออกกลาง, จีน และ ASEAN ซึ่งปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าหนุนรายได้ราว 125 ลบ. หรือคิดเป็นราว 40% ของรายได้รายไตรมาส ขณะที่ GPM คาดอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 30% จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น ประกอบกับ Product Mix ที่มีการขายสินค้าที่อัตรากำไรสูงมากขึ้น
ปรับประมาณการปี 2566-2567 ลง แต่ยังมองเป็นบวกต่อกำไรปกติในปี 2567
เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ลง 20.4% และ 12.6% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงผลดำเนินงานใน 2H66 ที่ต่ำกว่าประมาณการเดิม รวมถึงความเสี่ยงจากลูกค้าจีนที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาด PLUS จะมีกำไรปกติปี 2566 ราว 155 ลบ. ลดลง 20.8% YoY ก่อนที่จะเริ่มกลับมาโต 39.6% YoY ในปี 2567 หนุนจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าเดิม (น้ำนมมะพร้าว) ในสหรัฐ และสินค้าสินค้าใหม่ (MABU Coco) ในยุโรปที่คาดเติบโตเด่น เนื่องจากความนิยมในปัจจุบันที่สูงขึ้น ประกอบกับบริษัทยังมีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายใน Walmart เป็น 4,000 สาขา จากในปัจจุบันที่มี 3,500 สาขา และนำสินค้าไปจัดแสดงในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ GPM คาดสูงขึ้นเป็น 29.6% จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง
ราคาหุ้นยังขาดปัจจัยบวกในระยะสั้น แนะนำ “TRADING”
จากการปรับประมาณการลง ส่งผลให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ ณ สิ้นปี 2567 ที่ 7.30 บาท อิงวิธี DCF (WACC 10.5%, Ke 12.2% และ T.G. 3.0%) โดยราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายบน PER67 ที่ 20.0 เท่าและมี Upside เหลือเพียง 13.2% จึงคงคำแนะนำ “TRADING”