บล.บัวหลวง:

TMBThanachart Bank (ТТВ ТВ / ТТВ.ВК)

TTB กำไรดีกว่าคาด! ผลประโยชน์จากการยกเว้นการจ่ายภาษี

กำไรสูงกว่าที่เราคาด 10%

TTB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 4.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 3% QoQ สูงกว่าประมาณการของเราและตลาด 10% จากการที่ธนาคารใช้ประโยชน์จากการยกเว้นการจ่ายภาษีในไตรมาส 4/66 กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% YoY แต่ลดลง 2% QoQ กำไรปี 2566 คิดเป็น 102% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 1.81 หมื่น ล้านบาท

ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ

การเติบโตของกำไร YoY และ QoQ หนุนจาก NIM ที่ขยายตัวและประโยชน์จากการยกเว้นการจ่ายภาษี ธนาคารบันทึกภาษีเงินได้ 4.2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 ประโยชน์ทางด้านภาษีนี้มาจากการควบรวมกิจการระหว่าง TMB และ TBANK ซึ่ง TMB ขาดทุนจากการลงทุนใน TBANK ผลขาดทุนดังกล่าวสามารถหักภาระภาษีได้หลังจากการชำระบัญชีของ TBANK เสร็จสิ้นในเดือน พ.ย. 2566 โดยไตรมาส 4/66 เป็นไตรมาสแรกที่ TTB ได้ประโยชน์ทางด้านภาษี โดยยังมีมูลค่าเหลืออยู่จำนวน 1.55 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้จนถึงปลายปี 2571 การใช้ประโยชน์จากการยกเว้นการจ่ายภาษีจะไม่คงที่ แต่ขึ้นอยู่กับการประมาณการกำไรในอนาคต

NIM ไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 3.42% เพิ่มขึ้น 29bps YoY และ 6bps QoQ หนุนจากการหันไปโฟกัสที่ธุรกิจสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น (สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อทะเบียนรถ) อัตราส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 45.5% ลดลง 80bps YoY แต่เพิ่มขึ้น 227bps QoQ สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2566 มีมูลค่ารวม 1.3 ล้านล้านบาท ลดลง 3% YoY และ 3% QoQ กดดันจากการชำระคืนหนี้ของลูกค้ากลุ่มองค์กรและ SME

อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ต่อหนี้เสียของ TTB ในไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 2.77% เพิ่มขึ้น 139bps YoY และ 150bps QoQ เนื่องจากธนาคารตั้งค่าสำรองเพิ่มเติม 4.9 พันล้านบาท จากปัจจัยบ่งชี้ทางเศรษฐกิจบางประการที่ไม่เอื้ออำนวย (หนี้ครัวเรื่อนที่อยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่สูง และความเสี่ยงทีมากขึ้นของผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ที่ถูกยึด) เพื่อเพิ่มอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญฯ ทั้งนี้หากไม่รวมการตั้งสำรองเพิ่มเติม อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ต่อหนี้เสียจะอยู่ที่ 1.32% ลดลง 7bps YoY แต่เพิ่มขึ้น 4bps QoQ อัตราส่วนหนี้เสีย/สินเชื่อรวมลดลงจาก 2.67% ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2566 มาเหลือ 2.62% ณ สิ้นปี 2566 อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ต่อหนี้เสียของ TTB เพิ่มขึ้นจาก 143.7% เป็น 154.9% ณ สิ้นปี 2566 ตัวเลขเหล่านี้ทำให้เรามั่นใจว่าคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาสนี้

แนวโน้ม

เราคาดกำไรไตรมาส 1/67 ที่ 4.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YOY (NIM ที่สูงขึ้นน่าจะกลบผลกระทบของต้นทุนการดำเนินงานที่มากกว่า) และทรงตัว QoQ (เราคาดต้นทุนการดำเนินงานและการตั้งสำรองจะลดลง QoQ แต่ไม่คาดว่า TTB จะใช้ประโยชน์จากการยกเว้นการจ่ายภาษีในไตรมาส 1/67)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราคงประมาณการกำไรปี 2567 ที่ 1.89 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% YoY หนุนจาก NIM ที่ 3.26% (เพิ่มขึ้น 4bps YoY) และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้ที่ต่ำลง

คำแนะนำ

PER ปี 2567 ของ TTB อยู่ที่ 8.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำที่ 7.7 เท่าอย่างมาก (สูงเป็นอันดับสองในกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำ) ในขณะที่คาดการเติบโตเฉลี่ยสะสมของกำไรสุทธิต่อหุ้น ปี 2567-69 ของเราอยู่ที่เพียง 2% เท่านั้น มูลค่าดูตึงตัวไปเล็กน้อย เราจึงคงคำแนะนำ ถือ

- Advertisement -