บล.บัวหลวง:
KASIKORNBANK (KBANK TB / KBANK.BK)
KBANK กำไรตรงตามคาด
KBANK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 9.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 194% YoY แต่ลดลง 17% QoQ เป็นไปตามที่เราคาด (แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 8%) กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองอยู่ที่ 2.64 หมื่นล้านบาท ลดลง 7% YoY และ 3% QoQ กำไรปี 2566 คิดเป็น 103% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 4.12 หมื่นล้านบาท
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
การเติบโตของกำไร YoY ได้แรงหนุนจาก NIM ที่ขยายตัวและการตั้งสำรองที่น้อยลง กำไรที่ลดลง QoQ เป็นผลมาจากอัตราส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้ที่สูงขึ้น ทั้งนี้ NIM ไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 3.84% เพิ่มขึ้น 21bps YoY และ 7bps QoQ สิ้นเชื่อ ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 2.5 ล้านล้านบาท ทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 2% QoQ หนุนจากลูกค้ากลุ่มองค์กร รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท ลดลง 5% YoY (กำไรจากเครื่องมือทางการเงินลดลง) แต่เพิ่มขึ้น 41% QoQ (กำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่สูงขึ้น QoQ) อัตราส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้ของ KBANK ไตรมาสนี้อยู่ที่ 48.2% เพิ่มขึ้นจาก 42.6% ในไตรมาส 4/65 และ 42.1% ในไตรมาส 3/66 เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและไอทีเพิ่มขึ้น
คุณภาพสินทรัพย์อ่อนตัวในไตรมาสนี้ โดยอัตราส่วนหนี้เสีย/สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นจาก 3.11% ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2566 ไปเป็น 3.19% ณ สิ้นปี 2566 อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ต่อหนี้เสียของ KBANK ลดลงจาก 145.1% ณ สิ้นเดือนก.ย. เหลือ 142.1% ณ สิ้นปี 2566 ทั้งนี้อัตราการตั้งสำรองในไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 2.20% ลดลง 147bps YoY แต่เพิ่มขึ้น 11bps QoQ
แนวโน้ม
เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ 1.07 หมื่นล้านบาท ทรงตัว YoY (NIM ที่ขยายตัวขึ้นอาจถูกกลบโดยต้นทุนการดำเนินงานที่มากขึ้น) และเพิ่มขึ้น 14% QoQ (ต้นทุนการดำเนิงานที่ลดลง)
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
ประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ของเรายังคงเดิมที่ 4.55 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 7% YoY โดยหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 2% YoY และ NIM ที่สูงขึ้น กอปรกับการตั้งสำรองที่ลดลง
คำแนะนำ
PER ปี 2567 ของ KBANK อยู่ที่ 6.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำ 7.7 เท่า PBV ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 0.5 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำที่ 0.8 เท่าอย่างมาก บนสมมติฐาน ROE ปี 2567 ของเราที่ 8% ทำให้อัตราส่วน PBV/ROE อยู่ที่ 0.063 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำที่ 0.075 เท่าอย่างมีนัยสำคัญ เรามองว่า KBANK ยังปรับตัวได้ช้ากว่ากลุ่ม ซื้อ!