บล.กรุงศรีฯ:

TMBTHNANACHART BANK (TTB TB/ TTB.BK)

TTB – กำไร 4Q ดีกว่า consensus เพราะสิทธิประโยชน์ทางภาษี (UNRATED)

กลุ่มอุตสาหกรรมธนาคาร
หุ้นTTB
มูลค่าพื้นฐาน0.00
คำแนะนำ
  • Highlights from 4Q23 and FY23 results

กำไรสุทธิ 4Q23 สูงกว่า consensus 9%

(i) กำไรสุทธิของ TTB ใน 4Q อยู่ที่ 4.86 พันล้านบาท (+26.5% yoy, +2.8% qoq) ดีกว่า consensus เพราะสิทธิประโยชน์ทางภาษี (tax shield) จากการควบรวมธนาคารธนชาต แต่หากไม่รวมรายการ tax shield ผลประกอบการจะออกมาต่ำกว่า consensus คาด เพราะมีการตั้งสำรองพิเศษเพิ่มใน 4Q23

(ii) กำไรสุทธิในปี FY23 อยู่ที่ 1.85 หมื่นล้านบาท (+30% yoy) จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่เพิ่มขึ้น (+11% yoy) เพราะส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) สูงขึ้น (เป็น 3.24% จาก 2.95% ในปี FY22) ในขณะที่สินเชื่อโตลดลง 3.5%

(iii) Non-NII ลดลง 3% yoy เพราะกำไรจากการขายทรัพย์สินรอการขายที่ลดลง รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิและรายได้อื่นลดลง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OPEX) ใน 4Q23 ทรงตัว yoy เพราะเกิด synergy ทางด้านต้นทุน แต่ FY24 OPEX ยังเพิ่ม 4% yoy

(iv) ต้นทุนความเสียงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) ในปี FY23, เพิ่มขึ้นเป็น 1.64% จาก 1.33% yoy ในขณะที่ credit cost ในปี 4Q23 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 2.75% (จาก 1.27% ใน 3Q23 และ 1.38% ใน 4Q22) เพราะมีการตั้งสำรองพิเศษ 4.88 พันล้านบาทใน 4Q23 เพื่อรองรับความไม่แน่นอน

(v) อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) อยู่ที่ 155% เมื่อสิ้นปี 2023 (เพิ่มขึ้น yoy จาก 138%) เพราะ NPL ลดลงเหลือ 2.62% จาก 2.73% ในปี FY22

  • Outlook

กลยุทธ์ Risk-adjusted return คาดจะช่วยให้อัตราผลตอบแทน yield เพิ่มขึ้น เราคาดว่าสินเชื่อคงไม่โตในปีนี้ โดยที่ NIM ก็น่าจะทรงตัวเช่นกัน เพราะธนาคารจะยังคงเน้นสินเชื่อที่มีอัตราผลตอบแทนสูงในปี FY24F เข้ามาช่วย เราคาดว่า Non-NII yoy จากผลิตภัณฑ์ใหม่ทางประเภท wealth products และ top-up จากฐานลูกค้าเดิมที่มีประวัติดี ในขณะที่คาดว่าสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ (CA ratio) จะทรงตัว yoy เราคาดว่า credit cost จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ yoy เหลือ 1.2-1.3% เพราะไม่น่าจะมีการตั้งสำรองพิเศษเพิ่มไปมากเท่า 4Q23 จากการ ที่ TTB ปรับโมเดล ECL มาสู่ระดับที่แข็งแกร่งมากขึ้น แต่เราคาดว่า coverage ratio จะทรงตัว yoy อยู่ที่ระดับ 150% เพราะคาดว่าสัดส่วน NPL จะขยับเพิ่มขึ้นในปี FY24 (แต่จะยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และต่ำกว่า 2.9%)

  • Implication

ราคาเป้าหมาย Consensus อยู่ที่ 1.80 บาท โดยมี 4 ราย แนะนำซื้อ และ 4 ถือ

เรายังคงมอง Neutral ค่อนไปทางบวกกับ TTB เนื่องจาก (1) คาดว่าผลตอบแทน จากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ (earnings asset yield) จะดีขึ้น จากการเน้นผลิตภัณฑ์ที่มี yield สูง (ซึ่งอัตราผลตอบแทนที่สูงเทียบกับความเสียงแล้วอยู่ใน ระดับที่รับได้และเหมาะสม) ที่มีความเสียงด้าน credit cost ตา (เรามองว่าตั้งสำรอง เพียงพอแล้ว) แม้ว่ากำไรจะมีแนวโน้มทรงตัว yoy 2) บริษัทยังมี tax shield เหลือ อีก 1.55 หมื่นล้านบาทที่ยังใช้ได้ไปจนถึงปี 2028F ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วย รองรับผลกระทบแง่ลบในปีนี้ (downside risk) และ 3) ROE คาดจะดีขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง โดยคาดว่า TTB จะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ประมาณ 6%

- Advertisement -