บล.กรุงศรีฯ:

KASIKORNBANK (KBANK TB/ KBANK.BK)

KBANK – กำไรสุทธิใน 4Q ต่ำกว่าตลาดคาด เพราะค่าใช้จ่ายดำเนินงานและ credit cost ที่สูงกว่าคาด 
กลุ่มอุตสาหกรรมธนาคาร
หุ้นKBANK
มูลค่าพื้นฐาน0.00
คำแนะนำ
  • Highlights from 4Q23 and FY23 results

กำไรสุทธิใน 4Q23 ต่ำกว่า consensus คาดประมาณ 5%

(i) กำไรสุทธิของ KBANK ใน 4Q อยู่ที่ 8.38 พันล้านบาท (+194% yoy, -17% qoq) ต่ำกว่า consensus คาดไว้ เพราะค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (OPEX) และต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) สูงกว่าคาด ทำให้ธนาคารมีกำไรสุทธิในปี FY23 อยู่ที่ 4.24 หมื่นล้านบาท (+18.8% yoy)

(ii) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) เพิ่มขึ้น 12% yoy เนื่องจากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) เพิ่มขึ้น (เป็น 3.66% จาก 3.33% ในปี FY22) ในขณะที่สินเชื่อมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างทรงตัว yoy

(iii) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) เพิ่มขึ้น yoy เพราะกำไรจากการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุน (FVTPL) ในขณะที่ OPEX ในปี FY23 เพิ่มขึ้นถึง 14% yoy เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และขาดทุนจากการด้อยค่าของ IT ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวใน 4Q23

iv) credit cost ในปี FY23 ทรงตัว yoy อยู่ที่ 2.08% ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์สูง ในขณะที่ ( credit cost ใน 4Q23 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย qoq เป็น 2.18% จาก 2.10% ใน 3Q23

(iv) อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (coverage ratio) อยู่ที่ 152.2% ณ สิ้นปี 23 ลดลง qoq จาก 154.9% เพราะ NPL เพิ่มขึ้น qoq เป็น 3.19% จาก 3.11%

  • Outlook

ยังต้องใช้เวลานานจีนอีกหน่อยในการจัดการด้านคุณภาพสินทรัพย์

เราต้องว่าลามานเดินอีกหน้องเล็กน้อยในปี 1924 นาวาพสินค้ารเน้นปล่อยเฉพาะ สินเชื่อที่คุณภาพดี ในขณะที่ปล่อยสินเชื่อประเภทปลอดหลักประกันลดลงไปมา อย่างต่อเนื่อง เราคาดว่า NIM จะลดลงเช่นกัน เพราะการปล่อยแต่สินเชื่อมีอัตราผลตอบแทน (earnings asset yield) ลดลง ในขณะที่ OPEX น่าจะยังสูงอยู่ เพราะการลงทุนด้าน IT เช่นเดียวกับธนาคารอื่นๆ เรายังคงคาดว่า edit แสดง 30-40bps yoy เหลือ 1.7-1.8% เนื่องจากธนาคารตั้งสำรองไว้อย่างเพียงพอแล้ว และยังมีการตั้งสำรองพิเศษใน 4Q23 ซึ่งรวมถึงการตั้งสำรองเพิ่ม จากมุมมองของผู้บริหารเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่สามารถสะท้อนเข้า จะต้องใช้เวลานานขึ้นในการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ เพราะ 60% ของพอร์ต สินเชื่อยังอยู่ในกลุ่มเปราะบาง (SME สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อส่วนบุคคล) เราคาดว่าสัดส่วน NPLs จะเพิ่มขึ้นในปี FY24F ดังนั้นสัดส่วน Coverage ratio จึงน่าจะลดลงมาต่ำกว่าระดับ 150% ซึ่งถือเป็นระดับที่น้อยสุดเทียบกับธนาคารอื่น

  • Implication

ราคาเป้าหมายตาม Consensus อยู่ที่ 150 บาท โดยนักวิเคราะห์ 11 ราย แนะนำ ซื้อ และ 3 รายแนะนำถือ

เรายังคงมอง Neutral ค่อนไปทางลบกับ KBANK เนื่องจาก (1) คาดว่ากำไรจะลดลง yoy โดยยังมี downside จาก credit cost และ NPLs ที่คาดจะเพิ่มขึ้น 2) ROE อาจจะลดลงมาต่ำกว่า 8% ซึ่งจะทำให้หุ้นดูน่าสนใจน้อยลง แต่ (3) จำนวนเงินปันผลต่อหุ้น (อย่างน้อยที่สุด) น่าจะทรงตัว

- Advertisement -