บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Kasikornbank (KBANK.BK/KBANK TB)*
ผลประกอบการ 4Q66: NPL แกว่งตัวขึ้น
Event
ผลประกอบการ 4Q66 และปี 2566, ประชุมนักวิเคราะห์
lmpact
ผลประกอบการ 4Q66 ออกมาต่ำกว่าประมาณการ
กำไรสุทธิของ KBANK ใน 4Q66 อยู่ที่ 9.4 พันล้านบาท (-17% qq, +>194% yy) ต่ำกว่า consensus/ประมาณการของเรา 8%/13% เพราะคชจ. สำรองฯ(credit cost) สูงกว่าคาด และรายได้ค่าธรรมเนียม (non-NII) ต่ำกว่าคาด ในขณะเดียวกัน กำไรสุทธิเต็มปี 2566 อยู่ที่ 4.24 หมื่นล้านบาท (+18.5%) สูงกว่าประมาณการของเรา 5% ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาไส้ในของงบ 4Q66 พบว่า NIM ดีขึ้น, รายได้ค่าธรรมเนียมกลับมาอ่อนแออีก, มีกำไรจาก FVTPL ก้อนใหญ่ซึ่งสูงเกินคาด และ NPL ขยับสูงขึ้น
NIM ดีขึ้นใน 4Q66 แต่รายได้ค่าธรรมเนียมยังอ่อนแอ และต่ำกว่าประมาณการ
สินเชื่อโดยรวมขยายตัว 2% QoQ แต่ลดลง 0.2% YoY เพราะการตัดหนี้สูญ (write-off) และการขาย NPL ออกไปจากงบ แต่หากตัดรายการดังกล่าวออกไป สินเชื่อปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 1.2-1.5% ในขณะที่ถึงมีการหยุดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแล้ว แต่ NIM ยังคงเพิ่มขึ้นอีก 7bps QoQ และ 20bps YoY เพราะ ยีดล์จากสินเชื่อปล่อยตลาดเงิน และการลงทุนสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมการธนาคารหลักยังคงอ่อนแอ โดยลดลง 3% ทั้ง QoQ และ YoY ใน 4Q66 และลดลง 5% ในปี 2566 จากค่าธรรมเนียมตลาดทุน
คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลง โดยทั้ง NPL และ credit cost ขยับสูงขึ้นทั้งคู่
หลังจากที่ NPL และสินเชื่อตามโครงการปรับโครงสร้าง (CDR) ลดลงในไตรมาสก่อน gross NPL และ CDR กลับมาขยับขึ้นอีกครั้งใน 4Q66 โดย NPL เพิ่มขึ้น 5% QoQ และ 2% YoY ในขณะที่ credit cost เพิ่มขึ้นเป็น 215bps ใน 4Q66 จาก 208bps ในไตรมาสก่อน และสัดส่วน NPL coverage ลดลงมาอยู่ที่ 152% (จาก 155% ในไตรมาสก่อน) ซึ่งธนาคารชี้แจงว่าได้ทำการ downgrade ลูกค้าบางรายที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับ supply chain ของอุตสาหกรรมยานยนต์ และก่อสร้าง พร้อมทั้งนำลูกค้าดังกล่าวเข้าโครงการ CDR โดยสรุปแล้ว สินเชื่อตามโครงการ CDR เพิ่มขึ้น 1.86 แสนล้านบาท (+2 หมื่นล้านบาท QoQ และ +1.2 หมื่นล้านบาท YoY) หรือคิดเป็น 7.4% ของยอดสินเชื่อคงค้าง
Valuation & Action
KBANK ขาย NPL ออกไป 4.8 พันล้านบาทใน 4Q66 จาก 7.8 หมื่นล้านบาทในปี 2566 เพราะราคาเสนอซื้อต่ำเกินไป, พันธมิตรยังไม่พร้อมจะขายมากกว่านี้, มีอุปทาน NPA รอขายในตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งสถานการณ์นี้อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงกับ KBANK ในการบริหารจัดการให้ NPL ลดลงในปี 2567 อย่างไรก็ตาม ธนาคารตั้งเป้าจะลด credit cost ในปี 2567 ให้ต่ำกว่าปี 2566 (ที่ 208bps) ทั้งนี้ หากไม่เกิดกรณีการผิดนัดชำระหนี้ของลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ขึ้น credit cost ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 180-185bps เรามองว่าราคาหุ้นที่ระดับปัจจุบันไม่แพง และยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2567F ที่ 166 บาท (PBV ที่ 0.7x)
Risks
FVTPL ลดลงเพราะตลาดพันธบัตรผันผวน, NIM ถูกกดดัน, credit cost เพิ่มขึ้น