บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
TMBTHANACHART BANK (TTB TB)
กำไรมี Downside จำกัด
- กำไรสุทธิ 4Q23 ออกมาดีกว่าที่คาด แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและผลขาดทุนทางเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) จะเพิ่มตามฤดูกาล
- เราเห็นว่าแนวโน้มธุรกิจหลักในปี 2024 ขาดปัจจัยบวก อย่างไรก็ดีประโยชน์ทางภาษีอาจทำให้กำไรมี Upside
- ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ที่ราคาเป้าหมายปี 2024 ใหม่ที่ 2.19 บาท
กำไร 4Q23 ดีกว่าคาด
TTB รายงานกำไรสุทธิ 4Q23 อยู่ที่ 4.87พัน ลบ. สูงกว่าที่เราและตลาดคาด 11% และ 9% ตามลำดับ กำไรดังกล่าวสูงขึ้น 2.8% q-q และ 26.5% y-y แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเพิ่มตามฤดูกาล ซึ่งทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ (Cost-to-income ratio) กระโดดเพิ่มเป็น 45.5% จาก 43.2% ใน 3Q23 ธนาคารฯ รายงานการกลับค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 4.19 พัน ลบ. ใน 4Q23 จากการใช้ประโยชน์ทางภาษีหลังเลิกกิจการ TBCO (Thanachart Bank (TBANK) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TTB ในอดีต) ได้สำเร็จ จากรายการดังกล่าว TTB ตัดสินใจจัดสรรสำรองพิเศษเป็น ECL จำนวน 4.89พัน ลบ. ใน 4Q23 เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต โดยไม่ส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ 4Q23 เมื่อหักรายการพิเศษดังกล่าว กำไรก่อนหักสำรองใกล้เคียงกับที่เราคาด โดยอยู่ที่ 9.9 พันลบ. (-2.2%q-q, +4.3%y-y) ส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น 0.25% สำหรับสินเชื่อทุกประเภทในตอนต้นเดือนต.ค. 2023 ในทางตรงกันข้าม สินเชื่อหดตัว 2.6% q-q และ 3.5% y-y ส่วนมากจากสินเชื่อบรรษัทที่ลดลง ในขณะที่สินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น ส่วนมากจากการเติบโตของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงตามกลยุทธ์ของ TTB
คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับที่จัดการได้
ในภาพรวมคุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นไปตามเป้าประมาณการในบี 2023 ของ TTB เว้นแต่ต้นทุนความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ (Credit costs) สัดส่วนหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL ratio) ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.62% ต่ำกว่าเป้าประมาณการของธนาคารฯ ที่ไม่เกิน 2.90% ใน 4Q23 Credit costs ปรับขึ้นเป็น 277bp สอดคล้องกับ ECL ที่ปรับขึ้นโดยอยู่สูงกว่าเป้าประมาณการของ TTB ที่ 125-135bp ซึ่งทำให้ Coverage ratio ณ สิ้นปี 2023 อยู่ที่ 155% (จาก 144%ใน 3Q23) เมื่อหักสำรองพิเศษ Credit cost ปกติใน 4Q23 อยู่ที่ 128bp ยังสอดคล้องกับเป้าประมาณการของธนาคารฯ ที่ 125-135bp
ประโยชน์ทางภาษีอาจทำให้กำไรมี Upside
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-25 ของเราลง 8-11% เพื่อสะท้อนสมมติฐาน NIM การเติบโตของสินเชื่อค่าธรรมเนียมและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิที่ลดลง ซึ่งทำให้คาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะหดตัว 11.4% y-y และมีการเติบโตเล็กน้อยที่ประมาณ 2-3% ต่อปีในปี 2025-26 แม้ว่าประโยชน์ทางภาษีจะยังเหลืออยู่ เราไม่ได้รวมปัจจัยดังกล่าวไว้ในประมาณการของเรา เรายังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจหลักในปี 2024 กล่าวคือสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ซึ่งมืดมนและมีกำไรน้อยกว่าปกติ
ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ที่ราคาเป้าหมายปี 2024 ใหม่ที่ 2.19 บาท
เราปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ (จากถือ) จากผลตอบแทนในรูปเงินบันผลที่น่าสนใจที่ 5-6% ต่อปี ราคาเป้าหมายปี 2024 ของเรา (GGM) ที่ 2.19 บาท (จาก 1.79 บาท) คิดเป็นค่า PIBV ได้ที่ 0.9x (จาก 0.73x) โดยมีสมมติฐานจากค่า LT-ROE ที่เพิ่มเป็น 8.0% จาก 7.7% เพื่อสะท้อนประโยชน์ทางภาษีที่เหลืออยู่และค่า COE ที่ลดลงเหลือ 8.8% จาก 10.2%