บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

THE ERAWAN GROUP (ERW TB)

คาดธุรกิจหลักจะโตดีใน 4Q23

  • คาดกำไรปกติที่ 183 ลบ. ใน 4023 (-8% y-y, +23% q-q) โดยน่าจะได้ปัจจัยกดดันจากค่าใช้จ่ายของ Hop Inn ในญี่ปุ่น
  • แม้ว่าจะมีผลขาดทุนจาก Hop Inn ในญี่ปุ่น เรายังคาดว่ากำไรปกติจะโต 8% เป็น 0.75 พัน ลบ. ในปี 2024 จากการเติบโตของธุรกิจหลักที่อยู่ในเกณฑ์ดี
  • คงคำแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 6.3 บาท (DCF)

ถ้าไม่รวมโครงการในญี่ปุ่น กำไรปกติ 4Q23 น่าจะโต 10-15%y-y

เราคาดว่า RevPAR ของโรงแรมที่ไม่ใช่ Hop Inn จะโต 8% y-y และสูงกว่าระดับก่อนโค วิด 29% ใน 4Q23 โดยได้ปัจจัยผลักดันจากผลประกอบการที่ดีของโรงแรมราคาประหยัด แม้ว่าอัตราการเข้าพัก (OCC rate) ของโรงแรมหรูน่าจะปรับตัวลดลงเหลือ 81% (เทียบกับ 86% ใน 4Q22) จากฐานที่สูงใน 4Q22 ค่าห้องรายวันเฉลี่ย (ADR) ที่เพิ่มขึ้นน่าจะมากพอที่จะช่วยชดเชยปัจจัยดังกล่าว ในขณะที่ RevPAR ของ Thailand Hop Inn น่าจะโต 16% y-y และสูงกว่าระดับก่อนโควิดอยู่ 25% ส่วน RevPAR ของโรงแรมในฟิลิปปินส์น่าจะโต 15% y-y และสูงกว่าระดับก่อนโควิด 7% ทั้งนี้ ERW น่าจะบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการในญี่ปุ่นจำนวน 40-50 ลบ. (ค่าใช้จ่ายก่อนดำเนินงาน 30-35 ลบ. รวมกับค่าเสื่อมและค่าดอกเบี้ย อีก 12-14 ลบ.) เพราะฉะนั้นเราจึงคาดว่ากำไรปกติ 4023 จะลดลง 8% y-y มาอยู่ที่ 183 ลบ. เมื่อหักค่าใช้จ่ายของโครงการในญี่ปุ่น กำไรปกติ 4Q23 น่าจะโต 10-15% y-y เป็น 220-230 ลบ.

คาด Hop Inn ในญี่ปุ่นจะรายงาน EBITDA เป็นบวกในปี 2024

เราคาดว่า RevPAR ของธุรกิจหลักจะโต 5% y-y ในปี 2024 สำหรับ Hop Inn ในญี่ปุ่น เราคาดว่า OCC rate จะอยู่ที่ 75% พร้อม ADR ที่ 3,000 บาท และ EBITDA margin ที่ 30-35% อย่างไรก็ดี Hop Inn ในญี่ปุ่น อาจให้ผลขาดทุน 30-50 ลบ. ในปี 2024 จากค่าเสื่อมและดอกเบี้ย นอกจากนี้ ERW ยังวางแผนเปิด Hop Inn ในประเทศไทยอีก 8 แห่งและ Hop Inn ใน ฟิลิปปินส์อีก 3 แห่งในปี 2024 เราคาดว่ากำไรปกติปี 2024 จะโต 8% เป็น 0.75 พัน ลบ.จาก 0.69 พัน ลบ. ในปี 2023

บัญชีงบดุลที่ดีจะช่วยหนุนการลงทุนขนาดใหญ่

แม้ว่า ERW จะมีค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนจำนวนมากในปี 2023-24 ส่วนมากสำหรับโครงการณ์ Hop Inn ในญี่ปุ่น (1.7พัน ลบ.) และการซื้อ ibis Pattaya และ ibis Phuket Patong จาก ERWPF เป็นเงิน 1.6พัน ลบ. (ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหน่วยการลงทุนของ ERWPF ใน วันที่ 27 ก.พ.) เราคาดว่าสัดส่วนหนี้มีดอกเบี้ยต่อส่วนผู้ถือห้น (IBD/E) จะทรงตัวที่ 1.8-1.9x ในปี 2024 ต่ำกว่าเพดานหนี้ที่ 2.5x โดยมีสมมติฐานให้ ERW ใช้เงินกู้ยืมจากธนาคารเป็นจำนวน 70% ของการลงทุนรวม เราไม่มีความกังวลเกี่ยวกับบัญชีงบดูลของบริษัทฯ เมื่อพิจารณาจากเงินสดในมือจำนวน 1.4 พัน ลบ. ณ 3023 , ERW-W3 ซึ่ง in-the-money โดย น่าจะได้เงินจากการแปลง 1.1พัน ลบ. และ EBITDA ที่อยู่ในเกณฑ์ดีถึง 2.4-2.7พัน ลบ. ใน ปี 2024-25

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติ หุ้นมีการซื้อขายโดยมีระดับการประเมินมูลค่าต่ำกว่าในอดีต

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2023-24 ขึ้น 2-7% เพื่อสะท้อนการดำเนินงาน 4Q23 ที่อยู่ในเกณฑ์ดีและคงราคาเป้าหมายปี 2024 ไว้ที่ 6.3 บาท (DCF) ERW มีการซื้อขายในระดับการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจที่ 32X ของค่า 2024E PIE เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีในอดีตที่ 35x

 

 

- Advertisement -