บล.พาย:
HMPRO: Home Product Center PCL
คาดยอดขายสาขาเดิมติดลบ ฉุดกำไร 4Q23
โดยปกติแล้วไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงที่มียอดขายสูงสุดของปี จากช่วงเทศกาลการจับจ่ายใช้สอย แต่เนื่องด้วยสถานการณ์กำลังซื้อที่ชะลอตัว และผู้บริโภคบางส่วนที่ชะลอการใช้จ่ายช่วงปลายธ.ค. เพื่อใช้สิทธิมาตรการ Easy E-Receipt ของรัฐบาลในช่วง 1 ม.ค. 2024 – 15 ก.พ.2024 ทำให้เราคาดว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง 4Q23 จะติดลบ 8.0% (HomePro ที่ -8.0%, Mega Home ที่ -7.0%, และ HomePro Malaysia ที่ -2%) คาดรายงานกำไรสุทธิงวด 4Q23 ที่ 1.5 พันล้านบาท (-9.0%YoY, -1% QoQ) ขณะที่คาดว่า SSSG ช่วง 15 วันแรกของเดือนม.ค. 2024 จะยังคงอ่อนตัวลงราว 5%YoY คาดเห็นการฟื้นตัวในช่วง 2H24 เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท (เดิม 15.90 บาท) หลังปรับลดประมาณการกำไรปี 2024 ลง 6% เพื่อสะท้อนยอดขายสาขาเดิมที่เติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ช่วง 4Q23
คาดกำไร 4Q23 อ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ
- คาดรายได้ 4Q23 ที่ 1.79 หมื่นล้านบาท (+2%YoY, +7% QoQ) หนุนจากยอดขายกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านคาดว่าจะโตแตะ 1.73 หมื่นล้านบาท (+2%YoY) และรายได้จากการให้เช่าพื้นที่ 475 ล้านบาท (+2%YoY)
- การขยายสาขาช่วง 4Q23 : เปิดสาขา HomePro 2 แห่งที่ บางบัวทอง กับ ภูเก็ต และเปิดสาขา Mega Home 2 แห่งที่ ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กับ ภูเก็ต (เป็นสาขา hybrid model โดยมีสาขาติดกับสาขาของ HomePro ที่ภูเก็ต) ทำให้ ณ สิ้นปี 2023 บริษัทมีสาขา ทั้งหมด 128 แห่ง แบ่งเป็น Home Pro 89 สาขา HomePro S 5 สาขา Mega Home 27 สาขา HomePro Malaysia 7 สาขา และ HomePro Vietnam ที่หลัก ๆ ดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าภายตลาดออนไลน์
- ประเมินอัตรากำไรขั้นต้น ( GPM) จะทรงตัว YoY ที่ 27.0% ใน 4Q23 แต่ลดลง Q0Q จาก 27.4% ใน 3Q23 เนื่องจากคาดว่า GPM ของผลิตภัณฑ์จะทรงตัว YoY แต่ลดลง QoQ ที่ 26.1% ใน 4Q23 ฉุดจาก สัดส่วนยอดขายที่ไม่เป็นใจ กล่าวคือยอดขายสาขา Mega Home ที่ปรับสูงขึ้น และเป็นส่วนที่ให้อัตรากำไรต่ำกว่าสาขา Homepro ในระดับ 3%-4% ซึ่งจะไปหักลบกับปัจจัยบวกจากสัดส่วนยอดขายสินค้าแบรนด์บริษัทที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้น
- คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 21.0% ใน 4Q23 จาก 19.8% ใน 4Q22 และ 19.2% ใน 3Q23 จากต้นทุนในการขยายสาขาใหม่
แนวโน้มการบริโภคยังอ่อนตัวลงในครึ่งปีแรกของปี 2024
- เราคาดว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะติดลบ 5% ในเดือนม.ค. 2024 (HomePro ที่ -5%, Mega Home ที่ -3%, และ HomePro Malaysia ที่ -10%) โดยคาดว่ายอดขายต่อบิลจะสูงขึ้นจากมาตรการ Easy E-Receipt ของรัฐบาล แต่ปริมาณการซื้อจะลดลงตามการระมัดระวังการบริโภค
- อย่างไรก็ตามเราคาดว่ายอดขายปี 2024 จะยังเติบโต 6%YoY ผลจากการขยายสาขากว่า 11 สาขา (+10%YoY) ในปี 2023 และคาดขยายอีก 2 สาขาในปี 2024 แม้เราคาดว่ายอดขายสาขาเดิมจะติดลบในช่วง 1H24
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าหุ้นไม่แพง
มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 3% เทียบเท่า 26xPE’24E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย