บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

THAI UNION GROUP (TU TB)

เข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ หลังถอน RL

  • เรามองบวกต่อการถอนการลงทุน Red Lobster จะหยุดรับรู้ขาดทุนตั้งแต่ 1Q24
  • ค่าระวางเรือที่สูงขึ้นจากสงคราม Red Sea น่าจะกินระยะเวลาสั้นกว่าตอนโควิด คาดกระทบค่าขนส่งใน 1H24 เชื่อว่าผลบวกของ RL น่าจะหักล้างได้หมด
  • ปรับเพิ่มกำไรและราคาเป้าหมายเป็น 19 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ

จะหยุดรับรู้ขาดทุน Red Lobster ตั้งแต่ 1Q24 เป็นต้นไป

เรามองบวกต่อการถอนการลงทุนใน Red Lobster (RL) แม้ 4Q23 จะต้องรับรู้ด้อยค่าสูงถึง 1.85 หมื่นลบ. แต่เป็นรายการ One time และ Non Cash แม้ส่วนทุนจะลดลงจากการ ตั้งด้อยค่าครั้งนี้ และทำให้ Net D/E ratio ขยับขึ้นเป็น 0.84x จาก 0.65x จากสิ้น 3Q23 แต่ยังต่ำกว่า Debt covenant ที่กำหนดห้ามเกิน 2x อยู่มาก ขณะที่อัตราส่วนทางการเงินอื่นๆ อาจปรับลงเป็นการชั่วคราว และจะกลับมาดีขึ้นในปี 2024 ขณะที่บริษัทจะหยุดรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก RL ตั้งแต่ 1Q24 เป็นต้นไป ส่งผลบวกต่อกำไรปี 2024 ของ TU คาดเพิ่มขึ้นราว 450-500 ลบ.

มองแนวโน้มค่าระวางเรือตู้สูงขึ้น เป็นเหตุการณ์ชั่วคราว

ปัญหาสงครามที่กระทบต่อเส้นทางขนส่ง Red Sea ตั้งแต่ 15 ธ.ค. เริ่มกระทบต่อรายได้ส่งออกไปยุโรปเล็กน้อยใน 4Q23 และอาจต่อเนื่องมาใน 1Q24 จากระยะเวลาขนส่งที่นานขึ้นราว 10-15 วัน กอปรกับค่าระวางเรือตู้ไทย-ยุโรปปรับขึ้นแรงกว่า 200% m-m สูงสุดในรอบ 16 เดือน ส่วนค่าระวางไทย-สหรัฐ และไทย-จีนปรับขึ้นเช่นกัน +40-50% และ +78% ตามลำดับ เรามองว่าอาจกระทบต่อ TU ช่วงสั้น เพราะมีบางส่วนขายแบบ CIF ตอนโควิดปี 2022 ที่ค่าระวางทำนิวไฮ และสูงกว่าปัจจุบันเกือบ 3x ค่า Freight Cost สูงขึ้นเป็น 32.4% จากปกติอยู่ที่ 21-22% ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่ปัญหาสงครามอาจกินเวลาสั้นกว่าตอนเกิดโควิดที่ค่าระวางเรือสูงนานถึง 23 เดือน

ปรับเพิ่มประมาณการกำไร มองผลบวก RL หักล้างค่าระวางเรือสูงขึ้นได้หมด

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-25 ขึ้น 5.5% และ 2.1% เป็น 5.5 พันลบ. (+11.2% y-y) และ 6 พันลบ. การเติบโต +11.2% y-y และ +8.8% y-y ตามลำดับ แม้ปรับลดรายได้ลง และปรับเพิ่ม Freight cost ขึ้น ทำให้ SG&A to sales เพิ่มขึ้น 20bps เพื่อสะท้อนมุมมองค่าระวางเรือที่สูงขึ้นใน 1H24 และคาดสถานการณ์จะดีขึ้นใน 2H24 แต่ผลลบของค่าระวางเรือสูงขึ้นจะถูกหักล้างทั้งหมด ด้วยส่วนแบ่งขาดทุน RL ที่หายไป

ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย และคงคำแนะนำ ซื้อ

ด้วยผลของการปรับเพิ่มกำไร เราจึงปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2024 ขึ้นเป็น 19 บาท จากเดิม 18 บาท (อิง SoTP) คิดเป็น 2024 PE ที่ 17x แม้อัตราส่วนทางการเงินจะสะดุดลงใน 4Q23 แต่เป็นสถานการณ์ชั่วคราว และคาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน และอัตราส่วนทางการเงินจะกลับสู่ระดับปกติอีกครั้งในปี 2024 และหากสามารถขอผ่อนผันผู้ถือหุ้นกู้และธนาคารได้สำเร็จ คาดอัตราจ่ายปันผลงวด 2H23 หุ้นละ 0.3 บาท คิดเป็น Dividend yield ครึ่งปีที่ 2% ยังคงคำแนะนำ ซื้อ

- Advertisement -