บล.บัวหลวง: 

Kiatnakin Phatra Bank (KKP TB / KKP.BK)

KKP – ต่ำกว่าคาด! ขาดทุนจากการขายรถยึด

กำไรต่ำกว่าเราคาด 47%

KKP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 670 ล้านบาท ลดลง 53% YoY และ 48% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด 47% (และต่ำกว่าตลาดคาด 37%) เนื่องจากอัตราส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้สูงกว่าที่คาด กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองอยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท ลดลง 38% YoY และ 25% QoQ กำไรปี 2566 คิดเป็นเพียง 90% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 6 พันล้านบาท

ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ

กำไรที่ลดลง YoY และ QoQ เป็นผลมาจากต้นทุนการดำเนินงานที่มากขึ้น อัตราส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้ของ KKP อยู่ที่ 65.9% เพิ่มขึ้นจาก 52.7% ในไตรมาส 4/65 และ 57.5% ในไตรมาส 3/66 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขาดทุนอย่างมากจากการขายรถที่ยึดมาในระหว่างไตรมาส NIM ไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 4.36% ลดลง 29bps YoY และ 44bps QoQ จากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 47% YoY และ 4% QoQ โดยหลักจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจากธุรกิจตลาดทุนที่ลดลงและการขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงิน สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 3.99 แสน ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY (ธุรกิจสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อส่วนบุคคล) แต่ลดลง 1% QoQ (จากการชำระหนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และการชำระหนี้นิติบุคคล)

อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ต่อหนี้เสียในไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 1.43% ลดลง 79bps YoY และ 25bps QoQ อัตราส่วนหนี้เสีย/สินเชื่อรวมลดลงจาก 3.70% ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2566 มาเป็น 3.30% ณ สิ้นปี 2566 อัตราการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นจาก 139.4% ณ สิ้นเดือนก.ย. ไปเป็น 157.2% ณ สิ้นปี 2566 ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ KKP แข็งแกร่งขึ้นในไตรมาสนี้

แนวโน้ม

เราคาดกำไรไตรมาส 1/67 จะลดลง YoY (NIM ที่แคบลงและขาดทุนจำนวนมากจากการขายรถยึด) แต่จะเพิ่มขึ้น QoQ (การขาดทุนจากการขายรถยึดที่ลดลง)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลง 9% มาเหลือ 5.1 พันล้านบาท (ลดลง 6% YoY) จากการปรับขึ้นอัตราส่วนค่าใช้จ่าย/รายได้จาก 52.5% ไปเป็น 55.1% จากการขาดทุนที่มากขึ้นของการขายรถยึด และเราได้ปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 ลง 11% มาเหลือ 5.5 พันล้านบาท (เติบโต 7%YoY)

คำแนะนำ

PER ปี 2567 ของ KKP อยู่ที่ 7.7 เท่า ขณะที่เราไม่คาดว่ากำไรปี 2567 จะเติบโต นอกจากนี้ เรายังกังวลเกี่ยวกับผลขาดทุนจากการขายรถยึดคืนของ KKP และรายได้ที่อ่อนแอจากการดำเนินธุรกิจในตลาดทุน เราจึงยังคงคำแนะนำ “ขาย”

- Advertisement -