บล.เอเซีย พลัส:

AP กำไรปี 2566 ที่จะทำจุดสูงสุด หนุนปันผล 6.2%

คาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 1.31 พันล้านบาท (+14% YOY, -23% QOQ) หนุนกำไรปกติปี 2566 ทำจุดสุงสุดใหม่ที่ 6 พันล้านบาท เติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในระดับ 4% YOY คาดกำไรมีโอกาสยกฐานสูงขึ้นเป็น 6.28 พันล้านบาทปี 2567 ขับเคลื่อนจาก BACKLOG แนวราบที่จะยกมาโอนฯ ปีนี้อีกราว 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท, การขายโอนฯ แนวราบเดิมและใหม่ รวมถึงส่งมอบ 3 คอนโดฯ ใหม่ (เป็น JV 2 โครงการ) ใน 1H67

แนะนำ Outperform ที่ 16.00 บาท คาดราคาหุ้นระยะสั้นมีแรงพยุงจากทิศทางกำไรที่เป็นขาขึ้นในปี 2566-2567 นำไปสู่การจ่ายเงินปันผลรอบปี 2566 หุ้นละ 0.68 บาท หรือ 6.2%% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง หลังประกาศงบปีวันที่ 20 ก.พ. 2567)

คาดกำไรปกติปี 2566 ทำ NEW HIGH ที่ 6 พันล้านบาท

จากการเปิดโครการใหม่เชิงรุก โดยเฉพาะแนวราบใน 2H66 หนุนให้ Backlog แนวราบสิ้น 4Q66 สูงถึง 2.32 หมื่นล้านบาท (ยังไม่หักรับรู้รายได้ 4Q66) กอปรกับการโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องของคอนโดฯ ใหม่ที่สร้างเสร็จตั้งแต่ 3Q66 จำนวน 2 โครงการ คือ Aspire ปิ่นเกล้า อรุณอัมรินทร์ (มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ณ สิ้น 4Q66 ขาย 83% และ โอนฯ แล้ว 77% จาก 65% งวดก่อน) และ The Address สยาม-ราชเวี (JV) (มูลค่า 8.6 พันล้านบาท ณ สิ้น 4Q66 ขาย 44% โอนฯ รวม 29% จาก 15% งวดก่อน) คาดเป็นส่วนสนับสนุนต่อรายได้ขายอสังหาฯ 4Q66
เพิ่มขึ้น 5% YOY (แต่ลดลง 7.7% QoQ) เท่ากับ 9 พันล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 8.5 พันล้านบาท และคอนโดฯ 500 ล้านบาท รวมถึงส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม 220 ล้านบาท (-22.5% yoy และ -30.6% qoq) ด้าน Gross Margin ขายฯ คาดเฉลี่ย 35% สูงขึ้นจาก 33.7% งวดปีก่อน และ 34.2% งวดก่อน เนื่องจากการโอนส่วนใหญ่มาจากโครงการแนวราบใหม่ที่มีมาร์จิ้นดีขึ้น ภาพรวมประเมินกำไร 4Q66 เท่ากับ 1.31 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% yoy แต่ลดลง 23% qoq เหตุจากการลดลงของส่วนแบ่งกำไร JV และค่าใช้จ่ายขายบริหารสูงขึ้น จากการเปิดโครงการใหม่จำนวนมากในช่วงปลายปี

อย่างไรก็ดีเมื่อรวมกับกำไร 9M66 คงสนับสนุนทั้งปี 2566 คาดกำไรปกติทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 6 พันล้านบาท เติบโตต่อเนื่องเป็นที่ 4 ติดต่อกันในอัตรา 4% YoY

คอนโดฯ/แนวราบ จะหนุนกำไรปี 2567 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อไป

คงคาดกำไรปกติปี 2567 มีโอกาสยกฐานทำ New Record ใหม่ที่ 6.28 พันล้านบาท (+4% yoy) แรงขับเคลื่อนกำไรมาจากโครงการแนวราบที่คาดมี Backlog รอรับรู้รายได้ปีนี้อีกราว 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท รวมถึงแผนเปิดขายแนวราบใหม่ที่คาดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท และการขายโอนฯ ต่อเนื่องของโครงการแนวราบเดิมสิ้นปี 2566 ที่มีมูลค่าพร้อมขายรวม 9.63 หมื่นล้านบาท ขณะที่การโอนฯ คอนโดฯ ใหม่ปีนี้มีทั้งสิ้น 3 โครงการ (เป็น JV 2 โครงการ) มูลค่า 1.12 หมื่นล้านบาท (มียอดจองราว 52%) ช่วง 1H67

คาดปันผลปี 2566 หุ้นละ 0.68 บาท หรือเฉลี่ย 6.2%

อิง PER 8 เท่า ให้ FV ปี 2567 ที่ 16.00 บาท แนะนำ Outperform โดยราคาหุ้นมีแรงพยุงจากทิศทางกำไรปี 2566 ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ จะนำไปสู่การจ่ายเงินปันผลปี 2566 ที่หุ้นละ 0.68 บาท หรือจูงใจเฉลี่ย 6.2% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง หลังประกาศงบปี วันที่ 20 ก.พ. 2567)

ESG

Environment (E)

  • เล็งเห็นความสำคัญของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงกำหนดเป้าหมายโดยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 5% ภายในปี 2566 จากฐานปี 2564 และลดการใช้พลังงานรวม 5% เทียบกับการใช้พลังงานในปี 2564 ในทุก ๆ โครงการภายในปี 2566
  • ตั้งเป้าในการจัดการมลพิษทางอากาศ โดยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ที่เกิดจากโครงการก่อสร้างให้ลดลงเท่ากับระดับปลอดภัย (20 microgram/cubic meter) และลดข้อร้องเรียนจากชุมชนรอบเขตก่อสร้างด้านปัญหามลพิษทางอาการเป็น 0

Social (S)

  • สนับสนุนให้ทุกคนมีชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้ ผ่านการก่อตั้งสถาบัน AP Academy ส่งเสริมทักษะให้กับพนักงานในองค์กรกว่า 2 พันคน ให้มีความรู้ตั้งรับกับกฎกติกาโลกใหม่, โครงการ AP Open House ที่จัดขึ้นเพื่อส่งต่อความรู้จากประสบการณ์จริงให้กับนักศึกษา เพื่อสร้างแรงงานที่มีคุณภาพกลับสู่สังคม รวมถึงลงทุนก่อตั้ง SEAC ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน
  • มุ่งมั่นที่จะนำความรู้ ความเชี่ยวชาญของบริษัทในการพัฒนาและออกแบบพื้นที่ว่างที่ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ในชุมชน เปลี่ยนเป็นพื้นที่สาธารณะที่ช่วยเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชน โดยที่ผ่านมามีการพัฒนาพื้นที่ชุมชนคลองเตย 2 และซอยพิพัฒน์ 2 เปลี่ยนเป็นลานกีฬาสาธารณะสนามฟุตบอลเล่นกีฬา

Governance (G)

  • มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้านความเป็นธรรม โปร่งใส ตามหลักการกำกับดูแลกิจการ โดยมีเป้าหมายฝึกอบรมจรรยาบรรณทางธุรกิจ นโยบาย CG และนโยบายต่อต้านคอร์รัปชั่นให้พนักงานครบ 100% ในปี 2566 และ
    มีเป้ากำหนดให้เป็นหลักสูตรบังคับสำหรับพนักงานทุกคน รวมถึงลดกรณีละเมิดต่อหลักจรรยาบรรณทางธุรกิจเป็น 0 ภายในปี 2566
  • กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการต่อต้านคอร์รัปชั่น เช่น นโยบายแจ้งเบาะแสภายใน, นโยบายและแนวปฏิบัติการให้/รับของขวัญ เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนทุกระดับในบริษัท ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ประเด็นความเสี่ยง

  1. ตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ได้แก่ ความเชื่อมั่นต่อการสร้างรายได้ในอนาคตของผู้ซื้อ หากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่คาด ก็จะกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการตัดสินซื้อโครงการ ส่งผลให้ยอดขายและยอดโอนไม่เป็นไปตามเป้าหมายได้
  2. ระดับการแข่งขันในอุตสาหกรรมรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง อาจทำให้การควบคุมเรื่องประสิทธิภาพการทำกำไรทำได้ยากขึ้น
- Advertisement -