บล.เอเซีย พลัส:

HMPRO คาด SSSG อ่อนแอ ฉุดกำไร 4Q66 ชะลอ YoY

คาด HMPRO จะมีกำไร 4Q66 ที่ 1.6 พันล้านบาท (+5% QoQ, -3% YoY) แม้คาดมียอดขายแค่ทรงตัว QoQ จากกำลังซื้อที่อ่อนแอ แต่ยังมีรายได้อื่นๆเพิ่ม ช่วยพยุงกำไรให้โตได้ QoQ ส่วนกำไรที่จะชะลอลง YoY เพราะคาดยอดขายลดลง ตาม SSSG ที่ตกต่ำลงทั้ง Homepro และ Megahome

ประมาณการกำไรปี 2566 ของเราน่าจะมี downside 1% – 2% จึงคงคาดการณ์ไว้ที่ 6.4 พันล้านบาท แต่ปรับกำไรปี 2567 ลง 5% เหลือ 6.7 พันล้านบาท (+4% YoY) สะท้อน SSSG ที่อ่อนแอใน 4Q66 และน่าจะต่อเนื่องมาในปี 2567 ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ลดจาก 17.20 บาท เหลือ 14.30 บาท (ปรับ PER จาก 32 เท่า เหลือ 28.1 เท่า, -1.0 S.D) ปรับคำแนะนำลงเป็น “Underperform” แม้ราคายังมี upside สูง เพราะระยะสั้นยังมีปัจจัยกดดันจากกำไร 4Q66 ที่คาดจะตกต่ำลง YoY

คาดกำไร 4Q66 โต QoQ แต่ชะลอ YoY

ฝ่ายวิจัยคาดว่า HMPRO จะมีกำไรสุทธิงวด 4Q66 ที่ 1.6 พันล้านบาท (+5% QoQ, -3% YoY) แม้ในไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็นช่วง High season ของธุรกิจ โดยผู้รับเหมา และผู้บริโภคที่ชะลองานปรับปรุง ซ่อมแซมบ้านไปในช่วงฤดูฝน จะเริ่มกลับมาซื้อสินค้ากับบริษัทมากขึ้น แต่ด้วยกำลังซื้อที่อ่อนแอในงวด 4Q66 จึงคาดว่ารายได้ขายและบริการจะเพียงทรงตัวที่ 1.69 หมื่นล้านบาท (+0.4% QoQ) เท่านั้น อย่างไรก็ตาม กำไรยังโตขึ้นได้ดีกว่า เพราะมีรายได้อื่นๆที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าสปอนเซอร์สินค้า

แต่หากเทียบกับ YoY คาดมีปัจจัยที่กดดันกำไรให้ชะลอลง คือ

1) คาดรายได้จากการขายและบริการลดลง 4% YoY โดยยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth-SSSG) ของ HomePro และ Megahome ที่คาดจะชะลอลงราว 8% – 9% YoY ส่วนยอดขายจากการเปิดสาขาใหม่ยังมีรายได้ไม่มากพอจะช่วยชดเชย SSSG ได้

2) ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้นราว 13% YoYจากทั้งอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น และการกู้ยืมที่มีจำนวนมากขึ้น

ปรับลดประมาณการกำไรสะท้อน SSSG ที่อ่อนแอ

เรายังคงประมาณการกำไรสำหรับปี 2566 ไว้ที่ 6.4 พันล้านบาท (+3% YoY) เพราะหากกำไรงวด 4Q66 ออกมาอย่างคาด จะทำให้กำไรโดยรวมของทั้งปี 2566 มี downside เพียง 1% – 2% ของคาดการณ์เดิม อย่างไรก็ตามเราต้องปรับลดประมาณการกำไรสำหรับปี 2567 ลง เพื่อสะท้อน SSSG ที่ตกต่ำใน 4Q66 จากเงินเฟ้อที่ติดลบ และกำลังซื้อที่อ่อนแอ ซึ่งยังมีแนวโน้มต่อเนื่องมาในปี 2567 ทั้งนี้ เราได้ปรับลดสมมติฐานหลัก คือ ปรับยอดขายลงตามการปรับลด SSSG ลงจาก 3% เหลือ 1.5% ขณะที่ปรับดอกเบี้ยจ่ายขึ้น 10% โดยการปรับปรุงดังกล่าว ทำให้กำไรปี 2567 ลดจากประมาณการเดิม 5% เหลือ 6.7 พันล้านบาท (+4% YoY)

ปรับลดคำแนะนำลงจาก Outperform เป็น Underperform

ภายใต้ประมาณการใหม่ โดยปรับลด PER ลง (เดิมอิง PER 32 เท่า เป็น PER 28.1 เท่า, -1.0 S.D) ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ถูกปรับลดจากเดิม 17.20 บาท เหลือ 14.30 บาท ซึ่งแม้จะมี upside สูงราว 35% จากราคาหุ้นปัจจุบัน แต่เราปรับลดคำแนะนำลง “Outperform” เป็น “Underperform” เนื่องจากระยะสั้นยังมีปัจจัย
กดดันราคาหุ้น จากกำไรงวด 4Q66 ที่คาดจะออกมาอ่อนแอลง YoY

การดำเนินงานด้าน ESG ของ HMPRO

E – Environment: สนับสนุนการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Consumption) ผ่านการพัฒนาและการสนับสนุนกลุ่มสินค้า ECO Product โดยมีสินค้ากลุ่มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้ากลุ่มประหยัดพลังงาน สินค้ากลุ่มประหยัดน้ำ สินค้ากลุ่มรักษาป่าไม้ สินค้ากลุ่มลดก๊าซเรือนกระจกสินค้ากลุ่มสุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งในปี 2564 บริษัทฯ มีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้า ECO Product ร้อยละ 43.2 และมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายสินค้า ECO Product เป็นร้อยละ 50 ภายในปี 2568 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการยกระดับกลุ่ม
สินค้า ECO Product คัดสรรเป็นกลุ่มสินค้า ECO CHOICE เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผ้บูริโภค รวมทั้งส่งเสริมการใช้สินค้าพลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Plastic Consumption)

S – Social: บริษัทฯ สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เพื่อจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเพื่ออำนวยความสะดวก บุคลากรทางการแพทย์ และอำนวยความสะดวกให้ผู้รับวัคซีนอย่างครบครันและทั่วถึง รวมถึงสร้างโรงพยาบาลสนาม จังหวัดนนทบุรี เพื่อรองรับผู้ป่วย ช่วยลดภาระ และช่วยงานบุคลากรทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ ศูนย์กระจายสินค้า DC Center โดยมีทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลราชธานี ให้การดูแลรักษาพนักงาน คู่ค้า รวมถึงผู้ป่วยจากชุมชนรอบข้าง เพื่อช่วยให้ประชาชนได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง

G – Governance: บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดียึดถือหลักธรรมาภิบาล มีจริยธรรมและโปร่งใส ให้ความสำคัญและส่งเสริมพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ มีกระบวนการคัดเลือกและการปฏิบัติต่อคู่ค้าเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรม บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการมีคู่ค้าที่มีชื่อเสียงที่ดี มีการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรม (Ethical Sourcing) ความเป็นมืออาชีพ คำนึงถึงประเด็นสังคม

ประเด็นความเสี่ยง

1) เศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
2) การแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรม
3) การแย่งลูกค้ากันเองของสาขาที่เปิดบริเวณใกล้เคียงกัน

- Advertisement -