บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Kiatnakin Phatra Bank (KKP TB)

เติบโตช้า ธนาคารเร่งเคลียร์งบดุล

ถือ ลดราคาเป้าหมายเหลือ 52 บาท ชอบ TTB มากกว่า

คงคำแนะนำ ถือ และลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 52 บาท (P/BV ปี 67 ที่ 0.7 เท่า ROE 9.5%) จาก 54 บาท หลังปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนการเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัว และตุ้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit cost) ที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารยังไร้ปัจจัยบวกระยะสั้น เนื่องจาก credit cost ที่สูง และผลขาดทุนจากยอดขายรถยนต์น่าจะกดดันกำไรในครึ่งแรกของปี 67 หากเราเห็นสัญญาณคุณภาพสินทรัพย์ของสินเชื่อเช่าซื้อและกิจกรรมในตลาดทนปรับตัวดีขึ้น เราจะมีมุมมองบวกต่อธนาคารมากขึ้น เราชอบ TTB (ราคาปิด 1.78 บาท ซื้อราคาเป้าหมาย 2.0 บาท) มากกว่า KKP เนื่องจากแนวโน้มกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่า

ตั้งเป้าสินเชื่อชะลอตัวในปี 67

การประชุมนักวิเคราะห์วันนี้ ผู้บริหารคาดว่าสินเชื่อในปี 67 จะเติบโตเพียง 3% YoY และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Loan Spread) ลดลง 20bps YoY เป็น 5.0% เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น โดยคาดการณ์อัตราส่วน NPL สูงขึ้นที่ 3.5-3.7% ในปี 67 จาก 3.2% ในปี 66 และคาดว่าสินเชื่อธุรกิจมูลค่า 2 พันล้านบาทจะกลายเป็น NPL ในปี 67 ขณะที่ credit cost น่าจะลดลงเป็น 2.5-2.7% ในปี 67 จาก 3.0% ในปี 66 เนื่องจากธนาคารได้ตั้งสำรองไว้เต็มจำนวน 600 ล้านบาท สำหรับลูกค้ารายนี้แล้ว ทั้งนี้ KKP ไม่ได้ปล่อยกู้ให้ ITD (ไม่มีคำแนะนำ) นอกจากนี้ ธนาคารไม่มีเป้าหมายรายได้ค่าธรรมเนียม แต่คาดว่าค่าธรรมเนียมจากตลาดทุนจะดีขึ้นจากฐานที่ต่ำในปี 66 เราคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะเติบโต 3% และมองว่าค่าธรรมเนียมแบงก์แอสชัวรันส์เติบโตช้า เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อที่ชะลอตัว

คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้นใน 2H67

KKP ขาดทุนจากการขายรถยนต์เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.9 พันล้านบาทในปี 66 เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 1.5 พันล้านบาทในช่วงปี 61-65 รถยนต์ในสต็อกลดลงเหลือ 4,600 คันในไตรมาส 4/66 จาก 6,000 คันในไตรมาส 3/66 เราคาดว่าจำนวนรถยนต์ในสต็อกจะลดลงทีละน้อย แต่ผลขาดทุนต่อหน่วยยังคงอยู่ในระดับสูงเนื่องจากราคารถยนต์มือสองที่อ่อนแอ เราคาดว่าผลขาดทนจากการขายรถยนต์จะลดลงเหลือ 4.0 /3.5 พันล้านบาทในปี 67/68 ซึ่งคุณภาพสินทรัพย์ของบุริษัทได้รับผลกระทบสินเชื่อเช่าซื้อ loan vintage ที่อ่อนแอ เราคาดว่า คุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้น โดยมี credit cost ที่ลดลงใน 2H67 เนื่องจากโดยปกติจะใช้เวลา 18-24 เดือนในการเคลียร์งบดุลคุณภาพสินทรัพย์ในสินเชื่อเช่าซื้อ

ลดกำไรปี 67-68 เหตุสินเชื่อชะลอตัว credit cost สูงขึ้น

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 67-68 ลง 7-8% หลังปรับเพิ่ม credit cost และลุดประมาณการการเติบโตของสินเชื่อเพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เราเพิ่ม credit cost เป็น 2.44/2.24% (จาก 2.36/2.0%) และลดการเติบโต้ของสินเชื่อเป็น 3-4% (จาก 7-8%) เพื่อสะท้อนเป้าหมายทางการเงินในปี 67 ของ KKP เราคาดว่ากำไรของบริษัทจะถูกกดดันจาก credit cost และต้นทุนทางการเงินที่สูงในครึ่งแรกของปี 67 ขณะที่การฟื้นตัวจะได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อที่ค่อยๆ ดีขึ้น หลังผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ลดลงใน 2H67 เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 9-10% YoY ในปี 67/68 จากผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ลดลง

- Advertisement -