บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Supalai (SPALI.BK/SPALI TB)*

ปี 2566F ไม่สดใสแม้กำไรใน 4Q66F ฟื้นตัว

Event

ประมาณกำไร 4Q66 และอัพเดตแผนธุรกิจปี 2567

Impact

กำไร 4Q66F น่าจะฟื้นตัว QoQ แต่ลดลง YoY อย่างชัดเจน

เราประมาณการกำไร 4Q66 ที่ราว 1.5 พันลบ. (-30% YoY แต่ +27% QoQ) โดยที่ รายได้น่าจะอยู่ราว 9.5-9.6 พันลบ. ซึ่ง 8.5 พันลบ.เป็น backlog ในมือ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น อาจลดลงเนื่องจากมีการขายที่ดิน ซึ่งมี margin ต่ำของบริษัทลูกในประเทศออสเตรเลียมีสัดส่วนอยู่สูง นอกจากนั้น ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วมทุน (JV) ในประเทศออสเตรเลียอาจสูงขึ้นจากฐาน 3Q66 ที่ต่ำเป็นพิเศษแต่ยังคงต่ำกว่าช่วง 4Q65 มาก ขณะที่ เราเห็นว่ารายจ่ายดอกเบี้ยน่าจะยังสูงอยู่ที่ 150 ลบ. ขณะที่คาดการณ์กำไร 4Q66 อาจต่ำกว่าประมาณการของเราบ้าง จึงเห็นความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรเต็มปี 2566F ของเราที่ 5.85 พันลบ. (-28% YoY)

ยังไม่มั่นใจนักต่อแผนธุรกิจเชิงรุกของ SPALI ในปี 2567

Supalai (SPALI.BK/SPALI TB)* ประกาศเป้าหมายธุรกิจที่สูงเป็นประวัติการณ์ ด้าน การเปิดโครงการใหม่อยู่ที่ 5.0 หมื่นลบ. (เพิ่มขึ้นเกือบ 70% YoY) พรีเซลอยู่ที่ 3.6 หมื่นลบ. (+25% YoY หลัก ๆ มาจากโครงการแนวราบ) และยอดรายได้รวมอยู่ที่ 3.6 หมื่นลบ. (+20% YoY) ทั้งนี้  Backlog จากแนวราบและคอนโดรอรับรู้รายได้ในปีนี้อยู่ที่1.35หมื่นลบ. ทั้งนี้โครงการใหม่หลายแห่ง ราว 15-20% ของปีนี้ เป็นโครงการที่เลื่อนการเปิดมาจากเมื่อปีที่แล้ว ในแง่ส่วนแบ่งรายได้จากการลงทุนในประเทศออสเตรเลียน่าจะเริ่มรับรู้ได้ในช่วงกลางปี 2567 เป็นต้นไป  ส่วนทางด้านอัตรากำไรขั้นต้นอาจจะอ่อนตัวลงกว่าในอดีตเป็นเพราะการมีสัดส่วนสูงจากการขายอสังหาฯแนวราบและที่ดินเปล่าในออสเตรเลีย ซึ่งมี margin ต่ำกว่าการขายคอนโด นอกจากนั้น รายจ่ายดอกเบี้ยน่าจะยังสูงใกล้เคียงกับปี 2566

ประมาณการกำไรปี 2567 ของเรายังต่ำกว่า guidance จากบริษัทพอสมควร

ปี 2566 ดูเหมือนว่าจะเป็นปีที่ไม่น่าจดจำสำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ SPALI ก็เช่นกัน โดยรายงานมูลค่าการเปิดโครงการใหม่ พรีเซลและรายได้ต่ำกว่าคาด ส่วนในปี 2567 เราประมาณการพรีเซลทั้งปีค่อนไปทางอนุรักษ์นิยมอยู่ที่ 3.4 หมื่นลบ. (+17% YoY) และรายได้อยู่ที่ 3.1 หมื่นลบ. (ทรงตัว YoY) โดยเรามีความกังวลต่อภาพธุรกิจในภาคอสังหาฯ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่ไม่เอื้ออำนวย เพราะอำนาจการซื้อชะลอตัวและมาตรการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดจะกระทบลูกค้าและผู้ประกอบการในกลุ่มกลาง-ล่าง

Valuation & Action

เราคงประมาณการกำไรปี 2566F อยู่ที่ 5.85 พันลบ. (-28% YoY) จากนั้นเพิ่มขึ้น 7% อยู่ที่ 6.24 พันลบ. (+7% YoY) ในปี 2567F ช่วยหนุนจาก backlog ในมือมูลค่า 5 พันลบ.จากโครงการคอนโด ฯ 5 แห่งมูลค่าโดยรวมที่ 1.7 หมื่นลบ. ซึ่งกำหนดสร้างเสร็จพร้อมโอนในปี 2567  เมื่อมองไปข้างหน้าในปี 2568 แนวโน้มการเติบโตกำไรของ SPALI ยังน่าท้าทาย จาก backlog ที่น้อยลงเหลือเพียงที่ 882 ลบ. ฉะนั้น SPALI ต้องพยายามมากยิ่งขึ้นในการผลักดันยอดขายในอนาคต ทั้งนี้ upside จากราคาเป้าหมายปี 2567F ของเราที่ 21.40 บาท (คิดเป็นส่วนลดจาก PE ที่ 6.7x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5 S.D) จำกัดอยู่ราว 8.6% จากราคาปิดล่าสุด เราจึงปรับลดคำแนะนำหุ้น SPALI ลงเป็นเพียง “ถือ” จากเดิมซื้อ

Risks

ภาวะเศรษฐกิจ ความหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล มาตรการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้นท่ามกลางการยืดหนี้สินในระดับสูงของภาคครัวเรือนรวมทั้งการขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ

- Advertisement -