บล.บัวหลวง: 

Supalai (SPALI TB / SPALI.BK)

SPALI – การปรับฐานเพิ่งเริ่ม

ผู้บริหารเปิดเผยแผนธุรกิจเชิงรุกสำหรับปี 2567 โดยตั้งเป้าจอง ปี 2567 ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoY และตั้งเป้ายอดโอนที่ 3.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% YoY แต่จากมุมมองของเราเรามองว่าเป็นเรื่องยากสำหรับ SPALI ที่ทำอัตรายอดจองในระดับก่อนโควิด (20-25%) ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ “ถือเพื่อรับเงินปันผล” เนื่องจาก SPALI จะจ่ายอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล ที่ 3.6% ในครึ่งหลังของปี 2566

มุมมองของผู้บริหารสำหรับปี 2566 และกำไรไตรมาส 4/66

ในไตรมาส 4/66 SPALI พบว่าอัตราการปิดยอดขายจากการเข้าชมเพื่อซื้อลดลง เนื่องจากความเชื่อมั่นของตลาดลดลง จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยความเชื่อมั่นของผู้ซื้อที่ลดลง และการเติบโตของ GDP ที่ช้าลง จำนวนการเข้าชมในไตรมาส 4/66 ถือเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดในปีที่แล้ว เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/66 ของ SPALI อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ลดลง 12% YoY แต่เพิ่มขึ้น 54% QoQ รายได้จากธุรกิจิสังหาฯ จะทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น 39% QoQ เป็น 9.8 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66 อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มที่จะต่ำที่ 35.8% ในไตรมาส 4/66 เนื่องจากสัดส่วนโครงการคอนโดที่ลดลงในโครงการรวมและยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับโครงการในประเทศออสเตรเลียอยู่ที่เพียง 25-30% ซึ่งต่ำกว่าปกติ เทียบกับโครงการในไทยที่ 30-40%

เป้าเปิดตัวโครงการใหม่เป็นไปได้ แต่เป้ายอดจองและยอดโอนแลดูยาก

เป้าหมายมูลค่าเปิดตัวใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2567 อยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท (แนวราบ 87% คอนโด 13%) เพิ่มขึ้น 69% YoY SPALI ตั้งเป้ายอดจอง ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท (แนวราบ 76% คอนโด 24%) เพิ่มขึ้น 25% YoY ผู้บริหารคาดว่ายอดจองแนวราบจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก 40% YoY นำโดยสัดส่วนที่มากขึ้นของยูนิตราคากลางถึงต่ำในแผนการเปิดตัวโครงการ และยอดขายล่วงหน้าของคอนโดลดลงเล็กน้อย YoY SPALI ตั้งเป้ายอดโอนรวม 3.6 หมื่นล้านบาทในปี 2567 (ยอดขายเฉพาะบริษัท 3.4 หมื่นล้านบาทและ 2 พันล้านบาทจากยอดขายในประเทศออสเตรเลีย)

การปรับฐานของตลาดทำให้ความคาดหวังต่อปี 2567 ค่อนข้างออกเชิงอนุรักษ์นิยม

เราคาดเชิงอนุรักษ์นิยม ยอดขายปี 2567 ที่ 3 หมื่นล้านบาท ทรงตัว YoY (แต่ต่ำกว่าเป้าหมายของ SPALI ที่ 3.6 หมื่นล้านบาทอยู่ 17%) เมื่อผลประกอบการไตรมาส 4/66 ประกาศ เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2566 จะอยู่ที่ 35.9% (ถูกกดดันจากอัตรกำไรขั้นต้นจากประเทศออสเตรเลีย) ดังนั้นเราจึงมองว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 36.4% ในปี 2567 จากสัดส่วนโครงการคอนโดที่สูงขึ้น อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร/ยอดขายคาดว่าจะอยู่ที่ 12.7% ทรงตัว YoY เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมจะอยู่ที่ 450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% YoY เนื่องจากการลงทุนใหม่ๆจะช่วยเติมโครงการในออสเตรเลีย (12 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการ 5 หมื่นล้านบาท) ดังนั้นประมาณการกำไรหลักของเราในปี 2567 อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1% YoY)

ถือรอรับปันผล

SPALI ซื้อขายบน PER ปี 2567 ที่ 6.7 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ 0.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ตลาดขาลงส่งผลให้มีการปรับ PER ที่ต่ำลง) เราได้ปรับราคาเป้าหมายเป็น 19.5 บาท (จาก 18 บาท) เป็นราคาจากประมาณการกำไรหลักใหม่ และเนื่องจากราคาหุ้นแตะราคาเป้าหมายปี 2567 ของเราที่ 19.5 บาท เราจึงคงคำแนะนำ ถือเพื่อรับเงินปันผล เนื่องจาก SPALI จะจ่ายปันผลต่อหุ้นที่ 0.70 บาท สำหรับครึ่งหลังของ ปี 2566 ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงที่ 3.5%

 

- Advertisement -