บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Supalai (SPALI)

คาดกำไร 4Q66 ฟื้นตัวต่อเนื่อง

  • Action BUY (Maintain)
  • TP upside (downside) +20.8%
  • Close Jan 25, 2024 Price (THB) 19.70
  • 12M Target (THB) 23.40
  • Previous Target (THB) 23.80

กำไร 4Q66 เติบโต QoQ ลดลง YoY

เราคาดกำไรปกติ 4Q66 ที่ 1.8 พันลบ. (+51.9% QoQ, -18.2% YoY) เติบโต QoQ หนุนจากการจัดโปรโมชันกระตุ้นการโอนปลายปี และการโอนต่อเนื่องของ 2 โครงการแนวสูง ขณะที่เทียบ YoY คาดกำไรชะลอตัวจาก 1) อัตรากำไรขั้นต้นลูดลงมาอยู่ที่ 35.7% (-88 bps QoQ, -188 bps YoY) จากการสัดส่วนการโอนโครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้น 2) ค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น และ 3) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทฯ ร่วมลดลง ตามปัจจัยฤดูกาลของการโอนโครงการในออสเตรเลีย หาก 4Q66 เป็นไปตามคาด ประมาณการปี 2566 จะมี Downside 7.2%

ปรับลดประมาณการปี 2566-67 ลง เพื่อให้มีความอนุรักษ์นิยมมากขึ้น

เราปรับประมาณการกำไรปี 2566 และ 2567 ลง 7.2% และ 10.2% เป็น 5.8 พันลบ. (-29.3% YoY) และ 6.5 พันลบ. (+12.1% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานให้รัดกุมมากขึ้นเพื่อสะท้อน 1) การเติบโตของ GDP 1 ปี 2566 ล่าช้ากว่าคาด (ล่าสุดกระทรวงการคลังปรับลดประมาณการ GDP ปี 2566 ลงเป็น 1.8% จากเดิม 2.7%) 2) คาดความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบยังถูกกดดันจากกำลังซื้อที่จำกัด และ 3) อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้เรามองว่ากำไรปกติปี 2567 จะยังสามารถเติบโตได้จากการโอนโครงการ-แนวสูงสร้างเสร็จใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวม 1.7 หมื่นลบ. (ยอดจองซื้อเฉลี่ย 27.8%) และส่วนแบ่งกำไรจากโครงการในออสเตรเลีย 12 โครงการใหม่ เราคาดที่ราว 250 ลบ. (เริ่มรับรู้ตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป)

แผนธุรกิจเชิงรุก ตั้งเป้าเปิดตัวทำสถิติใหม่

บริษัทฯ ประกาศแผนธุรกิจปี 2567 ดังนี้ 1) เปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 42 โครงการ มูลค่ารวม 5.0 หมื่น 2) ตั้งเป้ายอด Pesale 3.6 หมื่นลบ. +24.7% YoY (แนวราบ 76% และแนวสูง 2%) และ 3) รายได้จากการโอนกรรมสิทธ์ที่ 3.6 หมื่นลบ. (สูงกว่าประมาณการรายได้ปี 2567 ของเรา 9.0%) 4) ปัจจุบัน (สิ้น 4Q66) บริษัทฯ มี Backlog ทั้งหมด 1.6 หมื่นลบ. ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 จำนวน 1.4 หมื่นลบ. (แนวราบ 8.3 พันลบ.) คิดเป็น 40.9% จากประมาณการรายได้ปี 2567 ใหม่ของเราที่ 3.3 หมื่นลบ. (+5.6% YoY)

แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 23.40 บาท

ผลจากการปรับประมาณการและการปรับ PER ที่ใช้ประเมินมูลค่าเป็น 7.0x (ค่าเฉลีย PER ย้อนหลัง 5 ปี รวมพรีเมียม 2% จาก Yuanta ESG Rating ระดับ AA) ทำให้ได้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ใหม่ที่ 23.40 บาท/หุ้น เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มผลประกอบการปี 2567 พลิกกลับมาเติบโต, Backlogs หนาแน่นพร้อมโอน 1.4 หมื่นลบ., มีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมขายพร้อมโอนอีกกว่า 8.9 หมื่นลบ. (สัดส่วนแนวราบ 84.2%), Valuation ไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายบน PER ที่ 5.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ, และเราคาดเงินปันผล 2H66 ที่ 0.33 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend yield 1.7%

- Advertisement -