OSP แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 23.30 บาท

เราปรับลดคำแนะนำเป็นถือ และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 23.30 บาท เนื่องจากเราปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2023F ลง 10.6% และปี 2024F ลง 6.6% เพื่อสะท้อนถึงยอดขายที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากเมียนมาร์ เราคิดว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัย ลบต่าง ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว โดยคิดเป็น P/E ปี 2024F ที่ 25x เท่ากับ – 1.5S.D. จากค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 36.6x

คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q23F จะลดลง 25% qoq เหลือ 420 ล้านบาท

เราคาดว่ายอดข่ายจะเพิ่มขึ้น 4% qoq (จากปัจจัยฤดูกาล) และ 1% yoy โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย yoy จะมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของเครื่องดื่ม energy drink ในประเทศไทย (60% ของรายได้ ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3% yoy เป็นประมาณ 3 พันล้านบาท) แม้ว่าส่วนแบ่งตลาดอาจจะลดลงประมาณ 0.5 ppt เหลือ 46% ก็ตาม ทังนี้ ผู้บริหารบอกว่าค่าใช้จ่ายอาจจะเพิ่มขึ้น 100 ล้านบาท จากจากการอ่อนค่าของเงินจ๊าด (เพราะรัฐบาลเมียนมาร์ไม่กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ระดับแข็งแกร่งอีกต่อไปแล้ว) ซึ่งจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ EBIT margin ลดลงประมาณ 3.8ppt เหลือ 7.5% นอกจากนี้ บริษัทยังน่าจะบันทึกผลขาดทุนที่เกิดขึ้นเพียงครัง้เดียวจากการปิดโรงหลอมแก้วแห่งหนึ่งด้วย ซึ่งเราคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท แต่รายการนี้ไม่ได้นับเป็นส่วนหนึ่งของกำไรจากธุรกิจหลัก

กำไรใน 2024F จะเพิ่มขึ้น 8% เป็น 2.5 พันล้านบาท

เราคาดว่ากำไรในปี 2024F จะเพิ่มขึ้น 8% เป็น 2.5 พันล้านบาท เนื่องจาก 1) ยอดขายเพิ่มขึ้นแบบกระจายตัวประมาณ 2% 2) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 0.1ppt เป็น 34.7% เพราะต้นทุนก๊าซธรรมชาติ (9% ของ COGs) มีแนวโน้มลดลง 3) สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลง 1.2ppt เหลือ 25% เพราะฐานสูงในปี 2023F จากการอ่อนค่าของเงินจ๊าด

ราคาเป้าหมายอิงจาก PE ความเสี่ยงหลักอยู่ที่ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ

เราประเมินราคาเป้าหมายโดยอิงจาก P/E ปี 2024F ที่ 27.4x เท่ากับประมาณ -1S.D. จากค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 36.6x เรามองว่าหุ้น OSP สมควรจะมี discount จากค่าเฉลี่ยในอดีต เพราะมีความท้าทายทั้งในประเทศไทย (ในการรักษาส่วนแบ่งตลาด) และในเมียนมาร์ นอกจากนี้ ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ (อย่างเช่น ก๊าซธรรมชาติ)  อาจจะเป็นได้ทั้ง upside และ downside