บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)

Kasikorn Bank (KBANK)

ตั้งเป้าเร่ง ROE กลับสู่เลข 2 หลักในปี 2569

  • Action BUY (Maintain)

  • TP upside (downside) +32.8%
  • Close Jan 26, 2024 Price 122.00
  • 12M Target 162.00

Event

วันศุกร์ที่ผ่านมา KBANK จัดการประชุมนักวิเคราะห์เพื่อแถลงกลยุทธ์และเป้าหมายปี 2567 ดังนี้

  • เป้าโตสินเชื่อที่ 3-5%YoY หลักๆ มาจากสินเชื่อในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ 2-4%YoY ส่วนสินเชื่อกลุ่ม SME และรายย่อยคาดโตเล็กน้อย 1-2%YoY โดยจะเน้นที่การคัดกรองลูกหนี้ใหม่ที่มีฐานะการเงินแข็งแรง และมีรายได้ปานกลาง-สูง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ความเสี่ยงต่ำ ส่วนลูกหนี้เก่าจะพยายามต่อยอดทำ Up/Cross Selling ให้กับลูกหนี้ที่มีประวัติชำระเงินดี
  • NIM คาดทรงตัวภายใต้สมมติฐานว่า กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี ทั้งนี้หากมีการปรับดอกเบี้ยลงในช่วงปลายปี บริษัทประเมินว่ายังมีความสามารถในการบริหารจัดการได้เพื่อไม่ให้ NIM ลดลงจากปี 2566 ได้
  • ตั้งเป้าอัตราโตของรายได้ค่าธรรมเนียมกลับสู่ระดับ Mid to High Single Digit สูงกว่าปกติที่จะให้เป้าแค่ทรงตัว YOY เพราะปีนี้จะเป็นพระเอกที่บริษัทให้ความสำคัญ หลังได้พันธมิตรใหม่ ทั้ง Lombard และ JP Morgan ทำให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ มาตอบสนองความ ต้องการลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเริ่มขายประกันให้กับลูกค้า Private Banking ทำให้มีแหล่งรายได้ใหม่ๆ เข้ามา
  • Credit Cost ลดลงเหลือ 1.75-1.95% แม้ว่าจะยังเป็น Credit Cost ที่สูง เพราะต้องทำ Balance Sheet Clean Up แต่ลดลงจาก 2.08% ในปี 2566 และจุดสูงสุดในปี 2565 ที่ 2.10% ซึ่งเป้า Credit Cost ดังกล่าวได้รวมผลกระทบจากลูกหนี้รายใหญ่ที่มีปัญหาทางการเงินไปแล้ว พร้อมคงเป้าปี 2568 จะกลับสู่ระดับ Credit Cost ปกติที่ 1.4-1.6% ทั้งนี้ผู้บริหารระบุว่าลูกหนี้ในพอร์ต สินเชื่อและพอร์ตลงทุนในตราสารหนี้ของ KBANK มีส่วนที่มีความเสี่ยงไม่มากและมีโอกาสน้อย ที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้เหมือนลูกหนี้ที่เกิดปัญหาไปแล้ว
  • บริษัทตั้งเป้า ROE กลับสู่เลข 2 หลักภายในปี 2569 โดยมีแกนหลักจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน, ช่วยให้ตอบสนองความต้องการและเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงลูกค้า อีกส่วนที่สำคัญ คือ KIV (เน้นสินเชื่อกลุ่ม Underbanked และเริ่มทำ Digital Asset Related) ตั้งเป้าเป็นสัดส่วนราว 5% ของกำไรบริษัทภายใน 5 ปี รวมถึงการขยายธุรกิจธนาคารไปยังประเทศในกลุ่ม AEC+3 ตั้งเป้ามีสัดส่วนกำไรเพิ่มเข้ามาเป็น 3%
  • นโยบายปันผลของบริษัทตั้งเป้าจ่ายไม่ต่ำกว่า 25% ของกำไรสุทธิ ซึ่งปัจจุบันไม่มีประเด็นเรื่องเงินกองทุน Tier 1 และ BIS Ratio ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

Our Take

  • เรามีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยหลังจบการประชุม โดยภาพรวมทั้งมุมมองและเป้าหมายทางการเงินของบริษัทสะท้อนถึงผลประกอบการในปี 2567 ที่สามารถขยายตัวได้ หนุนจากการตั้งสำรอง ที่แม้จะสะดุดชั่วคราวจากปัญหาลูกหนี้รายใหญ่ แต่ยังสามารถปรับลดลงได้เรื่อยๆ นอกจากนี้ยัง มีปัจจัยบวกจากทั้งรายได้ดอกเบี้ยที่ขยายตัวตามการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่จะกลับมาเร่งตัวขึ้น และรายได้ค่าธรรมเนียมที่จะเติบโตได้ดี จากการเน้นขยายตลาดในกลุ่มลูกค้ารายได้สูงมากขึ้น ทั้งนี้เป้าหมายทางการเงินของบริษัทไม่ได้แตกต่างไปจากประมาณการปัจจุบันของเราอย่างมีนัยสำคัญ เราจึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 เดิมที่ 46,390 ลบ. โต 9.4%YoY และเบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิใน 1Q67 จะพลิกกลับมาโตทั้ง YoY และ QoQ หลังค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการตั้งสำรองลดต่ำลง
  • เรามองว่าราคาหุ้น KBANK ที่ปรับตัวลงมาหลังประกาศผลดำเนินงาน 4Q66 ได้ตอบรับประเด็นลบจากคุณภาพสินทรัพย์ที่แย่ลงจากประเด็นของลูกหนี้รายใหญ่ไปแล้ว ซึ่งบริษัทได้ตั้งสำรองไว้เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยง  ทำให้เราคาดจะเห็นทิศทางการตั้งสำรองที่น้อยลงตั้งแต่ 1Q67 เป็นต้นไป ปัจจุบันราคาหุ้นปรับลงจนมี Upside 32.8% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2567 เดิมที่ 162 บาท และคาดให้ปันผลจากกำไรสุทธิ 2H66 อีกหุ้นละ 3.5 บาท คิดเป็น Div. Yiela 2.9% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -