Daily Focus: Earnings and Selective Play

2024 SET Target : 1520

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในช่วงภาคเช้า ก่อนที่ภาคบ่ายจะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว นำโดย AOT PTT BBL AWC ADVANC MINT เป็นต้น แม้ DELTA จะถูกแรงขายกดดัน ส่งผลให้ดัชนีรีบาวด์ขึ้นปิดบวก 8.13 จุด ที่ระดับ 1,376.28 จุด ส่วนมูลค่าการซื่อขายบางลงเหลือ 3.9 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในตลาด หุ้นบางๆ 210 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อบางๆเช่นกัน 160 ลบ. (แต่พลิกกลับมา Short Index Futures อีกครั้ง 9.5 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,370-1,388 จุด โดยคาดยังได้ Sentiment บวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ยังเดินหน้าทำ New High ขณะที่ Bond Yield 10 ปีปรับตัวลดลงเหลือ 4.07% หลังมีรายงานว่า US Treasury Department มีแผนจะกู้เงิน US$7.6 แสนล้านใน 1024 ต่ำกว่าที่เคยประกาศในเดือน ต.ค. 23 ขณะที่กลุ่มพลังงานคาดว่าจะผ่อนลงหลังราคาน้ำมันดิบพักตัวจากประเด็นความกังวลภาคอสังหาฯ จีน หลังศาลฮ่องกงสั่ง Evergrande เลิกกิจการ ปัจจัยที่ตลาดรอติดตามในสัปดาห์นี้ยังคงอยู่ที่การประชุม FED ซึ่งคาดว่ายังคงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.50% แต่โฟกัสจะอยู่ที่ถ้อยแถลงว่าจะมีการส่งสัญญาณต่อ การเริ่มลดดอกเบี้ยหรือไม่และเมื่อใด ขณะที่ปัจจัยในประเทศต้องติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อประเด็นแก้ไขม.112 ของพรรคก้าวไกลว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดยังจำกัด Upside ของดัชนีในระยะสั้น รวมถึงเริ่มเข้าสู่ช่วงทยอยคาดการณ์และประกาศกำไรบจ.ในฝั่ง Real Sector ว่าจะฟื้นตัวได้ดีมากน้อยเพียงใด รวมถึงการปรับประมาณการและ EPS ปี 2024 อย่างไรก็ตาม เรายังมองการปรับฐานของดัชนีตั้งแต่ต้นปี ทำให้ภาพระยะกลาง-ยาวยังน่าสนใจในทยอยสะสมเพื่อถือลงทุนจาก Valuation ที่ดึงดูดมากขึ้น โดยปัจจุบันเทรด 2024PER ราว 14.5 เท่า และมี EY Gap ที่เกือบ 4.3% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่โมเมนตัมกำไร 4Q23-2024 แข็งแกร่ง และ PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid

หุ้นเด่นเดือน ม.ค.: CHG, COM7, GFPT, SAPPE, SAWAD

หุ้นเด่นวันนี้ : GFPT

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท
  • คาดกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 365 ลบ +14% q-q, -19% y-y โต q-q สวนทางฤดูกาล เพราะมีปริมาณส่งออกเลื่อนมาจาก 3Q23 ราคาโครงไก่กลับมาขยับขึ้น และต้นทุนวัตถุดิบทยอยปรับลดลง คาดช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัว
  • แนวโน้ม 1H24 ยังดูดีที่ต้นทุนวัตถุดิบยังอ่อนลง แม้ต้นทุนค่าขนส่งจะปรับขึ้น แต่ยังคาดหวังราคาเนื้อสัตว์ทั้งไก่และหมูฟื้นตัวจากสถานการณ์หมูเถื่อนทยอยคลี่คลาย ระยะสั้นมี Catalyst บวกจากเทศกาลตรุษจีน เราคาดกำไรปี 2024 พลิกมาเติบโตที่ 1.5 พันลบ. +9% У-У
  • แนวรับ 11-10.80 บาท แนวต้าน 11.70-11.90 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคสุทธิหนาแน่นขึ้นเป็น US$743 ล้าน กลับมานำโดยไต้หวัน US$455 ล้าน รองลงมาเป็นเกาหลีใต้ US$248 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลเข้าเกือบทุกประเทศ นำโดยอินโดนีเซีย US$34 ล้าน มีเพียงเวียดนามที่ไหลออกบางๆ US$6 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้าแต่คาดยังกระจุกที่เอเชียตะวันออกที่มีหุ้นเทคโนโลยีในสัดส่วนที่สูง ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ยังคงอยู่ที่การส่ง สัญญาณของ FED ว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยเมื่อใดในการแถลงหลังการประชุม

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) SISB คาดกำไร 4Q23 น่าจะ new high ที่ 207 ลบ. +34% q-q, +61% y-y ทำให้กำไรทั้งปี 2023 จบที่ 650 ลบ. +76% y-y สูงกว่าที่เราเคยคาด 6% จากจำนวนนักเรียนที่เข้ามาเพิ่มระหว่างเทอมอีก 72 คน รวมเป็น 4,197 คนสิ้นปี 2Q23 ปกติจำนวนนักเรียนจะก้าวกระโดดใน 3Q23 เนื่องจาก รร.เปิดเทอมเดือน ส.ค. ระหว่างเทอมมีเพิ่มประปราย เดือน ม.ค. นี้เข้ามาเพิ่มอีก 40 คน แนวโน้มกำไรปี 2024 ดีต่อเนื่อง เราคาด +37% y-y จากการรับรู้รายได้จากนนทบุรีและระยองเต็มปี และมีการขยาย capacity ของรร.เดิมอีกในช่วง 2 ปีนี้ เมื่อขยาย capacity ครบในปี 2026 PE จะลดเหลือเพียง 21 เท่า ผู้บริหารยังสนใจขยายไปในต่างจังหวัด ที่มี demand และกำลัง ราคาเป้าหมาย 42 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

(0) PJW คาดกำไรสุทธิ 4Q23 ที่ 24 ลบ. -40% q-q, +110% y-y ต่ำกว่าที่เราเคยคาดก่อนหน้านี้ที่ 40 ลบ. เพราะจะมีร้ายการพิเศษราว 10 ลบ. จากการปรับโครงสร้างธุรกิจ สำหรับผลการดำเนินงานหลักโดยรวมชะลอลง เพราะจำนวนวันทำงานน้อยกว่าไตรมาสอื่น โดยคาดรายได้ชะลอตัว ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าขยับขึ้นได้เล็กน้อย ปรับประมาณกำไรปี 2023 ลง 10% เป็น +74% y-y และคงคาดกำไรปี 2024 +38% y-y คงราคาเป้าหมาย 5.90 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ” ทั้งนี้ PJW-W1 ที่ราคาใช้สิทธิ 2.857 บาทต่อหุ้น ต่ำกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน PJW-W1 ใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 18 ก.ค. 2024 หากใช้สิทธิทั้งหมด ราคาเป้าหมายจะถูก dilute เป็น 4.55 บาท

(-) BTG คาดผลการดำเนินงาน 4Q23 จะขาดทุนราว 659 ลบ. ดีขึ้นเล็กน้อยจาก -784 ลบ. ใน 3Q23 จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้น q-q  ได้ แต่ด้วยราคาหมูไทยเฉลี่ยที่ยังปรับลง -4% q-q, -39% y-y และหมูกัมพูชา -15% q-q, -11% y-y ขณะที่สถานการณ์หมูเถื่อนกัมพูชาเริ่มหนักขึ้น จึงกดดันให้ราคาหมูเดือน ธ.ค. ปรับลงด่ำสุดในอบ 6 ปี อยู่ที่ KHR6,200 ต่อกก. -20% y-y จบปี 2023 คาดขาดทุนราว 1.3 พันลบ. เบื้องต้นเรายังคงคาดกำไรปี 2024 ตามเดิมที่จะพลิกมีกำไรที่ 2.6 พันลบ. และคงราคาเป้าหมาย 23 บาท แต่มีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อการฟื้นตัวของกำไรที่อาจช้ากว่าคาด ยังแนะนำ “ถือ”

(0) COM7 เข้าซื้อหุ้น 40% ในบจ. ดับเบิลเซเว่น (DOU7) ธุรกิจให้บริการบริหารร้าน True shop ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จาก บจ. สบาย ฟูลฟิลเมนท์ (SBFFM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.สบาย เทคโนโลยี โดยชำระเป็นหุ้นของบมจ. สบาย เทคโนโลยี ภายหลังธุรกิจดังกล่าว COM7 จะกลับมาถือ DOU7 99% ตามเดิม ทั้งนี้เมื่อ 5 พ.ค. 2022 COM7 แจ้งตลาดมีมติขาย หุ้น DOU7 จำนวน 40% ของทุนจดทะเบียนให้กับ SABUY และเข้าซื้อหุ้นของ SABUY โดยเป็นการร่วมกันพัฒนาและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการ ซึ่ง COM7 คาดว่าจะนำไปสู่การเติบโตในระยะยาว และเชื่อว่าธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้มีผลต่อผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัท ราคาเป้าหมาย 30 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 224.02 จุด หรือ +0.59% ปิดที่ 38,333.45 จุดขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟด รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทเลคอมและกลุ่มการเงินสกัดกั้นการปรับตัว ขึ้นของตลาด

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก ยกเว้นตลาด HSI ที่ได้รับความกังวลจากคำสั่งชำระบัญชีของ Evergrande

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 35.43 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.64%

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 76.78 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่า วิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะฉุดเศรษฐกิจให้อ่อนแอลง และส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นอยู่ที่ระดับ 77.07 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.38%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 8.50 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 2,044.60ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นที่ระดับ 2,051.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.36%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 854.89/ -0.14%

- Advertisement -