บล.บัวหลวง:

Healthcare – ผลกระทบของเดือนรอมฎอนต่อ BH และ BCH (NEUTRAL)

เนื่องจากช่วงรอมฎอนในปี 2567 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.-9 เม.ย. การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (โดยเฉพาะผู้ป่วยจากฝั่งตะวันออกกลาง) จะลดลงอย่างมากในไตรมาส 1/67 เราแนะนำซื้อสะสม BDMS ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งแม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของผู้ป่วยจากฝั่งตะวันออกกลาง

โรงพยาบาลทุกแห่งจะรายงานการเติบโตที่แข็งแคร่ง YoY แต่จะซะลอตัวลง ปัจจัยตามฤดูกาล QoQ

โดยปกติไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของโรงพยาบาลทุกแห่ง (ฐานที่ใหญ่กว่าคือช่วงไฮซีซั่นในไตรมาสที่ 3 คือฤดูฝน) เราคาดกำไรหลักกลุ่มโรงพยาบาลที่เราให้คำแนะนำในไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% YoY เนื่องจากกำไรจากทุกบริษัทที่สูงขึ้น แต่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล 8% QoQ (ทุกบริษัท) รายได้กลุ่มโรงพยาบาลคาดว่าจะอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 10% YoY แต่ลดลง 2% QoQ และอัตรากำไรหลักจะอยู่ที่ 16.4% เพิ่มขึ้น 1.1% YoY แต่ลดลง 1.0% QoQ เราคาดว่า BDMS จะรายงานการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุด YoY ในบรรดาโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ 3.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% YoY แต่ลดลง 6% QoQ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3/66 โดยได้แรงหนุนจาก CLMV และผู้ป่วยชาวไทย เราคาดว่า BH จะรายงานกำไร 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY แต่ลดลง 10% QoQ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3/66 สำหรับ BCH เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/66 จะอยู่ที่ 422 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% YoY แต่ลดลง 11% QoQ

รอมฎอนส่งผลให้ตลาดตะวันออกกลางลดลงตามปัจจัยฤดูกาลในไตรมาส 1/67

ช่วงถือศีลอดเดือนรอมฎอนในปี 2567 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.- 9 เม.ย.การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ โดยเฉพาะผู้ป่วยจากฝั่งตะวันออกกลางจะลดลงอย่างมากในไตรมาส 1/67 ผู้ป่วยจากฝั่งตะวันออกกลางคิดเป็น 25-30% ของรายได้ของ BH (เพียง 3-4% ของ BDMS) และผู้ป่วยส่วนใหญ่จากฝั่งตะวันออกกลางเป็นผู้ป่วยหนัก ซึ่งให้อัตรากำไรสูง ผู้ป่วยจากฝั่งตะวันออกกลางของ BCH ยังคิดเป็น 50% ของผู้ป่วยในต่างประเทศทั้งหมด หรือ 10% ของรายได้ของ BCH ดังนั้นช่วงโลว์ซีซั่นของผู้ป่วยจากฝั่งตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่อ BH และ BCH ในไตรมาส 1/67 มากกว่า BDMS

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานจำนวนนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวน 48,000 รายในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5% MoM จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในไตรมาส 4/66 มีจำนวน 1.38 แสนราย เพิ่มขึ้นอย่างมาก 42% YoY แต่ลดลง 45% QoQ จากช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 3/66 จำนวนผู้เดินทางจากฝั่งตะวันออกกลางในปี 2566 มีจำนวน ทั้งสิ้น 6 แสนราย ซึ่งมากกว่าตัวเลขปี 2562 ถึง 19% ชาวซาอุดีอาระเบียเดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2566 มีจำนวน 1.78 แสนราย ฟื้นตัวแข็งแกร่ง 85% YoY (คิดเป็น 30% ของนักท่องเที่ยวจากฝั่งตะวันออกกลาง)

มูลค่าหุ้น

ปัจจุบันเราชอบ BDMS มากกว่า BH และ BCH โรงพยาบาลระดับไฮเอนด์ (BDMS และ BH) ปัจจุบันซื้อขาย ที่ PERs ปี 2567 ใกล้เคียงกัน โดย BH ซื้อขายที่ 26.0 เท่า และ BDMS ที่ 28.6 เท่า มูลค่ายังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 32 เท่าของ BH และ BDMS ที่ 29 เท่า การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งระหว่างดำเนินการส่งผลให้ premium อยู่ในระดับที่เหมาะสม BCH ซื้อขายที่ PER ปี 2567 ที่ 30.4 เท่า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 29.7 เท่า แต่แนวโน้มในปี 2567 ด้วยผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง (KIH อรัญประเทศ, KH ปราจีนบุรี และ KIH เวียงจันทน์) ที่ดีขึ้น โดยมี EBITDA (ไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) คิดเป็นมูลค่ารวม 20 ล้านบาทในไตรมาส 3/66 (เทียบกับ 15 ล้านบาทในไตรมาส 2/66)

- Advertisement -