รอติดตามผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ คืนนี้

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.35% ขณะที่ S&P500, Nasdag ปิดในแดนลบท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ก่อนที่ตลาดจะทราบผลประชุม FED ในคืนนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.57% หลังจากกองทุนระหว่างประเทศปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภคและตำแหน่งเปิดรับสมัครงาน (Job Opening) ที่ 114.8, 9.03 ล้านตำแหน่ง (ตามลำดับ) สูงกว่า Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 114.2, 8.7 ล้านตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาดการณ์ก็ไม่ได้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนว่านักลงทุนรอดูผลประชุม FED ที่จะประชุมกันในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย หรือทราบผลทางการในพรุ่งนี้เช้าของเวลาประเทศไทย อิงข้อมูลจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 98% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมคืนนี้ อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญมากกว่าเรื่องของดอกเบี้ยได้แก่ทิศทางดอกเบียในช่วงถัดไป ประกอบกับถ้อยแถลงของประธาน FED เบื่องต้นนักลงทุนประเมินว่าจะเริ่มเห็นการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ค. สำหรับความเห็นเราต่อแนวโน้มคืนนี้ ประเมินว่าอาจเห็นการส่งสัญญาณที่เข้มงวดจากประธาน FED ด้วยเงินเฟ้อที่ยังปรับลงไม่ถึงเป้าหมายและตัวเลขเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมาก็รายงานสูงกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้ ประกอบกับบางตัวเลขก็มีสัญญาณฟื้นตัว แต่หากไม่เข้มงวดกว่านักลงทุนประเมินไว้ก็มองเป็นกลาง

ปัจจัยติดตามอื่นๆ นอกเหนือจากประชุม FED ได้แก่การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP และสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.48 แสนตำแหน่ง และ -0.8 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ หากรายงานแล้วแย่กว่าคาดการณ์ มองเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นโลก

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1365 – 1380 เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังแนะทยอยสะสมได้เช่นเดิมจากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม อาทิ สนามบิน (AOT) โรงแรม (CENTEL MINT) ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ส่งออก (ITC TU) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

ILM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท)

เลือก ILM เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มค้าปลีกสินค้าซ่อมแซมและตกแต่งบ้าน เนื่องจาก 1. แนวโน้มยอดขายที่เติบโตแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม 2. เพิ่มเสถียรภาพของกำไรจากการเพิ่มรายได้จ่ายการให้เช่าพื่นที่ และ 3. มี valuation นำดึงดูดที่สุดในกลุ่ม คาดกำไร 4Q23 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 196 ล้านบาท (+7%YoY, +2%QoQ) หนุนจากคาดการณ์การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่เป็นบวก 8% เทียบกับบริษัทอื่นๆในกลุ่มที่ -8% ถึง -12% ในช่วง 4Q23

TIDLOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท)

คาดว่ากำไรจะโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/23 พร้อมกับคุณภาพสินเชื่อที่ยืดหยุ่นดีในครึ่งหลังปี 2023 ซึ่งจะเอื้อให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในปี 2024-25 ลงได้ ขณะที่คาดว่ากำไรจะโต 6.6% YoY สำหรับ ทั้งปี 2023 และโตอย่างมั่นคงในระดับ 21.7%/21.1% ในช่วงปี 2024-25 หนุนจาก NII และเบี้ยประกันที่สูงขึ้นบวกกับค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลง

- Advertisement -