บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
DOHOME PCL (DOHOME TB)
คาดกำไร 4Q23 เติบโตเด่น จากฐานต่ำ และ GPM ดีขึ้น
- คาดกำไรปกติ 4Q23 ที่ 122 ลบ. (+34% q-q และ 412% y-y) จากฐานต่ำ คาด SSSG ยังติดลบราว 9% แต่ GPM ดีขึ้นจากเหล็กและ private brand
- ปรับลดกำไรปกติปี 2023-25 ลง 14.2%, 12.6% และ 17.4% ตามลำดับ
- ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 12.30 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ
คาดกำไรปกติ 122 ลบ. เติบโตเด่นทั้ง q-q และ y-y
เราคาดกำไรสุทธิ 182 ลบ. (+100% q-q, +454% y-y) หากไม่รวมเงินประกันน้ำท่วมราว 60 ลบ. คาดกำไรปกติของ DOHOME เท่ากับ 122 ลบ. +34% q-q จากการเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวของเกษตรกร และ +412% y-y จากฐานที่ต่ำในปีก่อน โดยในช่วง 4Q22 เผชิญปัญหาน้ำท่วมสาขาขนาดใหญ่อย่างสาขาอุบลฯ (สัดส่วนรายได้ราว 20%) ทำให้ต้องปิดสาขาราว 1 เดือน ขณะที่คาด Gross margin ปรับตัวดีขึ้นทั้ง q-q และ y-y จากทั้งสัดส่วนและอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้า private brand ดีขึ้นจากค่า Freight ที่ลง ขณะที่ SG&A ปรับสูงขึ้นจากการขยายสาขาขนาด L เพิ่ม 1 สาขา ที่ต.บางพูน จ.ปทุมธานี ทำให้สิ้นบี 2023 มีสาขาขนาด L 24 สาขา และ ToGo 11 สาขา
แนวโน้ม SSSG ใน 4Q23 ลดลงมากกว่าคาด และคาดว่าจะกลับเป็นบวกได้ 2H24
แนวโน้ม SSSG พลิกกลับมาติดลบมากกว่าที่คาด โดย 4Q23 เราคาดว่า SSSG จะติดลบ 9% (เดิมคาด -5%) รวมถึงแนวโน้ม SSSG เดือนม.ค. ยังติดลบราว 5-6% จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า ทำให้ลูกค้ากลุ่มผู้รับเหมาที่รับงานภาครัฐชะลอตัวลง รวมถึงงานภาคเอกชนถูกเลื่อนออกไป จากความไม่แน่นอนของกำลังซื้อในช่วง 4Q23 ขณะที่ลูกค้ากลุ่ม End-users เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นตามการเข้าสู่ช่วงซ่อมแซมและต่อเติมบ้านในช่วงครึ่งปีแรก และคาด SSSG จะเป็นบวกใน 2H24
ปรับลดกำไรปกติปี 2023-25 จากโอกาสในการเลื่อนเปิดสาขา และ SSSG ฟื้นช้า
เราปรับกำไรปกติ 2023-25 ลง 14.2%, 12.6% และ 17.4% ตามลำดับ จากความไม่แน่นอนของกำลังซื้อในภาคอีสาน ดัชนีรายได้เกษตรกรเฉลี่ย 3 เดือน (ต.ค.-ธ.ค. 23) ปรับลดลง 1.8% และความเสี่ยงด้านผลผลิตการเกษตรจากภาวะเอลนีโญ่ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า และความไม่แน่นอนของแผนการขยายสาขาในปี 2024
ปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 12.30 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ
เราปรับลดราคาเป้าหมายลงเป็น 12.30 บาท (จากเดิม 13.00 บาท) จาก SSSG ที่ลบมากกว่าที่คาด และความไม่แน่นอนของการขยายสาขาในปี 2024 รวมถึงปรับเพิ่ม WACC เป็น 7.3% (จากเดิม 7.0%) จากต้นทุนกู้ยืม (Cost of debt) ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มผลประกอบการที่คาดว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
Investment thesis
DOHOME หนึ่งในผู้ประกอบการค้าปลีก ค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร เน้นสาขาในต่างจังหวัดซึ่งมีสาขาขนาดใหญ่กว่า 80% และสาขาในกรุงเทพและปริมณฑลอีก 20% ภายใต้แนวคิด ครบ ถูก และดีที่สุด สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม
เราคาดกำไรปกติ DOHOME ปี 2024E เติบโต 91% จากฐานที่ต่ำใน ปี 2023 และคาดปี 2025-26E เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 26% CAGR เติบโตมากที่สุดในกลุ่ม Home improvement หนุนจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ 3-5% การขยายสาขาขนาดใหญ่ 2-4 สาขาต่อปี และกลยุทธ์ในการเพิ่มอัตรากำไรจากการเน้นการขายสินค้า Private brand และการควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ
Company profile
DOHOME ดำเนินธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ภายใต้แนวคิด One-stop home products destination ศูนย์จำหน่ายสินค้าเป็นอาคารขนาดใหญ่ด้วยพื้นที่ให้บริการที่ประกอบด้วยพื้นที่ขายและพื้นที่คลังสินค้าขนาดประมาณ 22,000 – 65,000 ตร.ม. นอกจากนี้ยังมีสาขาขนาดเล็ก (ToGo) ขนาดประมาณ 800 – 1,000 ตร.ม.
Catalysts
ปัจจัยหนุนสำหรับ DOHOME ได้แก่ 1) ราคาเหล็กปรับสูงขึ้น (สัดส่วนรายได้จากเหล็กอยู่ราว 30% ของรายได้รวม) 2) การเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์ 3) มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐ 4) การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 5) ผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น
Risks to our call
ความเสี่ยง 1) รายได้เกษตรกรลดลง กระทบกำลังซื้อในภาคเกษตร 2) การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้า 3) สัดส่วนและอัตรากำไรของสินค้า Private brand ลดลง 4) ค่าใช้จ่ายสูงกว่าที่คาด 5) ผลกระทบของเอลนีโญ่ (ภาวะแล้ง) มากกว่าที่คาด