บล.ฟิลลิป:
BEC: คาด 4Q66 กำไรลดลง y-y แต่เป็นกำไรดีสุดของปี
ทยอยซื้อ ТР’67: 5.40
4Q66 ได้ละครใหญ่ “พรหมลิขิต” และขายซีรี่ส์ให้กับ OTT ช่วยดันให้รายได้โตทั้ง q-q, y-y แต่ตามมาด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น แม้จะมีส่วนแบ่งกำไรจากภาพยนตร์ “ธีหยด” เข้ามา แต่ก็ถูกหักกลบด้วยภาษีจ่ายที่สูงขึ้นจากบริษัทย่อย คาดกำไรลดลง y-y แต่ดีขึ้นมาก q-q ภาพ 1Q67 เริ่มต้นได้ดี แต่ยังต้องติดตามตลอดทั้งปี ยังคงคำแนะนำและราคาพื้นฐาน และจะพิจารณาประมาณการอีกครั้งหลังประชุมนักวิเคราะห์
งบรวม | 4Q66E | 3Q66 | 4Q65 | % Y-Y | %q-q | 2566E | 2565 | % y-y |
กำไร | 96 | 38 | 149 | -35.4 | 153.8 | 213 | 607 | -65.0 |
EPS | 0.05 | 0.02 | 0.07 | -35.4 | 153.8 | 0.11 | 0.30 | -65.0 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- คาด 4Q66 กำไรดีสุดของปี แต่ยัง -35.4% y-y ที่ 96 ลบ.: 4Q66 คาดรายได้รวม +8.2% y-y เป็น 1,325 ลบ. จากละครใหญ่ “พรหมลิขิต” หนุน U Rate ปรับตัวดีขึ้น คาดเป็น 73% จาก 71.7% และราคาขายทรงตัวได้ที่ 6.6 หมื่นบาท/นาที ส่วนรายได้ลิขสิทธิ์โตได้สูง จากการขายลิขสิทธิ์ละครไปยัง OTT และ Online รวมถึงมีขายซีรี่ส์ 2 เรื่องให้ Pime Video ต้นทุนคาด +15.1% จากต้นทุนละครใหญ่และซีรี่ย์ที่ขายให้ Pime Video และ SG&A คาด +20.2% จากค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นปลายปี และค่าใช้จ่ายโปรโมทละครที่เพิ่มขึ้น แม้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรธี่หยดคาดที่ 54 ลบ. แต่ภาษีจ่ายจะสูงผิดปกติจากการดำเนินงานของบริษัทย่อย แต่กำไรดีขึ้น q-q จากส่วนแบ่งกำไรของธีหยดเป็นหลัก
- ม.ค. ดีขึ้นกว่าปีก่อน และปีนี้จะมีภาพยนตร์เข้ามากขึ้น: ปกติ 1Q จะเป็น low season ของธุรกิจโดย ม.ค. ดูดีกว่าปีก่อน จากเม็ดเงินโฆษณาที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามตลอดทั้งไตร่มาสและในปีนี้จะมีภาพยนตร์ที่ร่วมผลิตกับ MAJOR เข้าฉายอย่างน้อย 2 เรื่องในครึ่งปีหลัง ซึ่งมี ธีหยด 2 ที่จะเข้าในช่วง 4Q67 รวมถึงอยู่ระหว่างเสนอขายซีรี่ส์ให้กับ OTT อีก 1 เรื่อง