KS Daily View 08.02.2024 >>> คาดดัชนีแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,390-1,410 จุด ตาม Sentiment บวกจากตลาดหุ้นโลก และโอกาสที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยในครึ่งหลังปีนี้มีสูงขึ้น หุ้นแนะนำวันนี้ PTT, MEGA

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

  • ต่างประเทศ : : ดัชนี DJIA +0.40% S&P500 +0.82% NASDAQ +0.95%; Dollar index -0.12% เป็น 104.056 และค่าเงินบาทปิดที่ 35.47; ราคาน้ำมันดิบ Brent Futures +0.79% เป็น 79.21/bbl; ราคาทองคำ +0% เป็น 2034.21/ounce;  US 10Y yield +2bps เป็น 4.11%
  • ในประเทศ: SET Index +3.060 จุด หรือ +0.22% ปิดที่ 1400.02 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ JMT (+3.08%), CRC (+3.05%), VGI (+3.01%), PTTGC (+2.92%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ ERW (-3.14%), RBF (-3.08%), CBG (-2.66%), BDMS (-2.61%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาดดัชนีแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,390-1,410 จุด ตาม Sentiment บวกตลาดหุ้นโลก โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผลการโหวตเรื่องดอกเบี้ยของ กนง. มีคณะกรรมการ 2 ท่านจากทั้งหมด 7 ท่านโหวตให้ลดดอกเบี้ย 0.25% หนุนโอกาสที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยในครึ่งหลังปีนี้มีสูงขึ้น วันนี้ติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเดือน ม.ค. คาด CPI เดือน ม.ค. -0.5% YoY (แย่กว่าเดือนก่อนหน้าที่ -0.3% YoY) ขณะที่ดัชนี PPI คาด -2.6% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -2.7% YoY) สะท้อนความเสี่ยงเงินฝืดของจีน และแรงกดดันต่อกลุ่มส่งออกของไทย เพราะจะมีสินค้าราคาถูกจากจีนออกมาดัมพ์ราคาในตลาดโลก

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 6.22 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 6.19 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาทั้งปี 2566 ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 18.7% สู่ระดับ 7.734 แสนล้านดอลลาร์ และมีสัดส่วน 2.8% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยลดลงจากระดับ 3.7% ของปี 2565
  2. หุ้นบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป -6% หลัง เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาดในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.2566 ซึ่งเป็นไตรมาส 3 ของปีงบการเงินบริษัท โดยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา และการชะลอตัวในตลาดค้าปลีก ทั้งนี้ อาลีบาบาเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 18.97 หยวน/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 19.17 หยวน/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 2.6035 แสนล้านหยวน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6265 แสนล้านหยวน
  3. กนง.ไทย มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% ต่อปี โดย 2 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี โดยเศรษฐกิจไทยในปี 67 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากภาคการส่งออกและการผลิต เนื่องจากอุปสงค์โลกและเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า รวมถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างกระทบการขยายตัวของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวมากกว่าที่ประเมินไว้ แต่อุปสงค์ในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่องและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ด้านอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ รอดูจีดีพี เงินเฟ้ออีก 2-3 เดือน แล้วมาทบทวนใหม่ (เราคาดลดดอกเบี้ยครั้งแรกช่วงครึ่งปีหลัง 2567)
  4. ติดตามการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้าซึ่งจะมีการหารือในรายละเอียดถึงข้อเสนอแนะต่างๆ โดยเฉพาะข้อเสนอจากทางป.ป.ช. เช่น การกู้เงินตาม พ.ร.บ.เงินกู้เสี่ยงขัด รธน.-พ.ร.บ.วินัยการคลัง-พ.ร.บ.เงินตรา เนื่องจาก ป.ป.ช. ระบุเศรษฐกิจยังไม่ถึงขั้นวิกฤติแค่ชะลอตัว ขณะเดียวกัน ป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะใช้ทางรัฐบาลใช้ งบปกติจ่ายเป็นเงินบาท และเน้นช่วยกลุ่มยากจน-เปราะบาง

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ปรับกรอบเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยขึ้นเป็น 1,360-1,420 จุด (จาก 1,360-1,404 จุด) จากตลาดมีการเก็งกำไรประเด็นเรื่องการควบคุมธุรกรรม Short sell หลังมีการแต่งตั้งประธานคนใหม่ “พิชัย ชุณหวชิร” โดยมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องติดตามได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และผลประกอบการไตรมาส 4/66 ของบจ.ไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนม.ค. ของจีน ญี่ปุ่น ยูโซนและอังกฤษ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนม.ค. ของจีนเดือน ม.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • PTT (ราคาพื้นฐาน 37.5 บาท) ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” และเพิ่ม TP สิ้นปี 2567 เป็น 37.50 บาท จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 ที่ แข็งแกร่งและผลกระทบที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายราคาพลังงาน คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 3.11 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น YoY และทรงตัว QoQ จากผลการดำเนินงานของ GSP ที่ปรับดีขึ้นและการพลิกกลับมามีกำไร FX คาดไตรมาส 1/67 มีแนวโน้มอ่อนแอลงจากผลกระทบของนโยบายราคา Single Gas Pool และการนำส่งค่าปรับขาดส่งก๊าซฯ ให้ กกพ. อย่างไรก็ตาม จากราคา LNG ที่ลดลงอย่างมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผลกระทบนโยบาย Single Gas Pool ลดลงกว่าครึ่ง
  • MEGA (ราคาพื้นฐาน 48 บาท) คาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 691 ลบ. (+27.9% YoY, +8.1% QoQ) โดยไม่รวมผลขาดทุน FX 300 ลบ. MEGA ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายด้วยเลขหลักเดียวระดับกลางในปี 2567 ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติเพื่อสะท้อน GPM ที่เพิ่มขึ้นจากระบบสองสกุลเงินในเมียนมาร์ แต่ปรับลดกำไรสุทธิลงเนื่องจากขาดทุน FX ที่ไม่ใช่เงินสดที่เพิ่มขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP ที่ 48 บาท จาก 1) การเติบโตที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจหลัก 2) ธุรกิจมีเสถียรภาพในเมียนมาร์ และ 3) การประเมินมูลค่าที่ไม่แพง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)ของจีนสำหรับเดือน ม.ค. ต่อด้วยติดตามบันทึกการประชุมและตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปที่ ECB ใช้ในการประเมินและตัดสินใจในการทำนโยบายการเงิน (ECB economic bulletin)
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence Index – CCI) ของไทยสำหรับเดือน ม.ค. โดยตัวเลขรายงานในเดือนก่อนหน้าที่ 62 จุด และติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index – CPI) ของเยอรมันสำหรับเดือน ม.ค. โดยตลาดคาดที่ +2.9% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.7% YoY
- Advertisement -