บล.ทรีนีตี้

เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส – JMT

คาดกำไร 4Q66 ดีขึ้นเล็กน้อยจากการกลับ ECL ตามฤดูกาล

  • คาดกำไร 4Q66 ที่ 493 ล้านบาท ดีขึ้น 6%QoQ และ 1%YoY
  • คาดยอดจัดเก็บอาจปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ แต่ยังเป็นระดับค่อนข้างต่ำ
  • คาดเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนยังกดดันความสามารถในการชำระของลูกหนี้
  • อาจเห็น ECL ลดลง QoQ จากการกลับสำรองหนี้ตามฤดูกาล
  • ปรับลดประมาณการกำไรปี 66-67 ลงอีกเล็กน้อยจากประมาณการก่อนหน้า เพื่อสะท้อนอัตราการจัดเก็บที่อาจลดลงจากเดิมที่คาดไว้ก่อนหน้า
  • เข้าสู่ Cycle ของภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งการจัดเก็บจะทำได้ไม่ดี แต่จะซื้อหนี้เข้ามาได้ค่อนข้างมาก ซึ่งหากเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคาดว่าจะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้งหนึ่ง
  • มองราคาหุ้นที่อ่อนตัวสะท้อนปัจจัยลบระยะสั้นไปแล้ว

คาดกำไรดีขึ้นเล็กน้อยจากการกลับ ECL ตามฤดูกาล

เราคาดกำไร 4Q66 ที่ 493 ล้านบาท ดีขึ้น 6%QoQ และ 1%YoY หลังคาดยอดจัดเก็บปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย QoQ จากปัจจัยฤดูกาลมาอยู่ที่ราว 1,360 ล้านบาท แต่ยังเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำ หากพิจารณาถึงมูลหนี้ที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ทั้งนี้เนื่องจากคาดว่าภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ และภาวะหนี้ครัวเรือนในระดับสูง ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ลดลง ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บโดยรวม นอกจากนี้ยังมีผลกระทบอีกเล็กน้อยจากการที่กรมบังคับคดีมีวันหยุดค่อนข้างมากในเดือน ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา ทำให้เงินสดรับจากกรมบังคับคดีต้องเลื่อนไปเดือน ม.ค. 67 ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดลดลง 17%QoQ โดยหลักเป็นการลดลงจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้จาก 3Q66 ที่ 167 ล้านบาท คาดมาอยู่ที่ราว 110 ล้านบาท ซึ่งเป็นปกติตามฤดูกาลที่มักมีการกลับสำรองหนี้ในช่วงปลายปี ด้านส่วนแบ่งกำไรจาก JK AMC คาดลดลงเล็กน้อย 3%QoQ จากอัตราการจัดเก็บโดยรวมที่ชะลอลง

ปรับประมาณการกำไรปี 66-67 ลง

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566-2567 ลง 2% และ 7% จากประมาณการก่อนหน้ามาอยู่ที่ 1,963 ล้านบาท (+12%YoY) และ 2,277 ล้านบาท (+16%YoY) ตามลำดับ โดยปรับลดอัตราการจัดเก็บลงเพื่อสะท้อนภาพรวมการจัดเก็บที่อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ แม้ว่าในฝั่งการซื้อหนี้จะมีโอกาสมากขึ้นก็ตาม โดยคาดการจัดเก็บจะกลับมาสดใสอีกครั้ง ภายหลังภาพรวมเศรษฐกิจโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับภาคครัวเรือนเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น

ให้ราคาเป้าหมายใหม่ 40 บาท

จากการปรับประมาณการทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2567 ใหม่ที่ 40 บาท อิง PBV 2.30 เท่า ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงมาได้สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการระยะสั้นที่อาจไม่เติบโตสูงเช่นในอดีตไปแล้ว ขณะที่หากมอง Cycle ของธุรกิจระยะยาว ภาพธุรกิจปัจจุบันถือเป็นปกติที่ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี การจัดเก็บจะทำได้ไม่ดีเช่นกัน แต่จะมีการซื้อหนี่เข้ามาได้ค่อนข้างมาก ซึ่งหากเริ่มเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่ดีอีกครั้งหนึ่ง

ความเสี่ยง: อัตราการจัดเก็บหนี้และกระแสเงินสดและการซื้อหนี้ต่ำกว่าที่คาด

- Advertisement -