บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
SC Asset (SC.BK/SC TB)
การพัฒนาต่อเนื่องในปี 2567-2571
Event
สรุปประเด็นสำคัญปี 2566 แผนธุรกิจปี 2567 และแผนงานในอีก 5 ปีข้างหน้า
Impact
ธุรกิจของโครงการคอนโดมิเนียมฟื้นตัวโดดเด่นช่วยหนุนผลการดำเนินงานปี 2566
SC Asset (SC.BK/SC TB) เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้านที่อยู่อาศัยในกลุ่มระดับบน ได้รายงานพรีเซลปี 2566 สูงเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท (+14% YoY) หนุนจากพรีเซลโครงการคอนโด ฯ พุ่งขึ้นแรงที่ 123% YoY อยู่ที่ 1.07 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการเปิดโครงการคอนโดฯ โค้บบ์ รัชดา-พระราม 9 มูลค่า 6 พันล้านบาทใน 3Q66 ประสบความสำเร็จอย่างสูง ขณะที่พรีเซลของโครงการแนวราบชะลอตัวลง 12% YoY อยู่ที่ 1.73 หมื่นล้านบาท มูลค่ารวมการเปิดโครงการใหม่ปี 2566 ลดลงอยู่ที่ 3.42 หมื่นล้านบาท (-23% YoY) ทั้งนี้ ข้อมูลด้านพรีเซล รายได้ และการเปิดโครงการใหม่จริงออกมาต่ำกว่า guidance เต็มปีอยู่ราว 7-15% หากอิงข้อมูลจากประมาณการของ Bloomberg’s consensus รายได้ปี 2566 อาจเพิ่มขึ้น 5% YoY อยู่ที่ 2.26 หมื่นล้านบาท แต่กำไรอาจลดลง 4% YoY อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท จากอัตรากำไรอ่อนตัวและต้นทุนการเงินพุ่งขึ้น
Guidance ธุรกิจปี 2567 มีความเป็นไปได้
เป้าหมายพรีเซลของ SC ปีนี้ (2567) ตั้งไว้อยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท (ทรงตัว YoY) ส่วนรายได้คาดอยู่ที่ 2.65 หมื่นล้านบาท (+17% YoY) และมูลค่ารวมการเปิดโครงการใหม่อยู่ที่ 3.0 หมื่นล้านบาท (-12% YoY) อย่างไรก็ดี ปีนี้ SC จะมีโครงการคอนโด ฯ ที่พร้อมโอน 2 แห่งได้แก่ Reference สาทร มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท และ Scope ทองหล่อมูลค่าโครงการ 2.8 พันล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับบริษัทพัฒนาอสังหา ฯ ชั้นนำรายอื่น ๆ ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาด ฯ ซึ่งได้ประกาศแผนธุรกิจปี 2567 ไปแล้วนั้น guidance ของ SC ดูสมเหตุสมผลมีความเป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางสภาพแวดล้อมการดำเนินงานปัจจุบันที่ชะลอตัว ในเวลาเดียวกัน ตลาดคาดประมาณการค่อนไปทางอนุรักษ์นิยมมากกว่าด้วยรายได้อยู่ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท (+2% YoY) ส่วนกำไรอาจฟื้นตัวที่ 6% YoY อยู่ที่ 2.65 พันล้านบาท นอกเหนือจากธุรกิจสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อขายแล้ว SC มีแผนที่จะส่งเสริมธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ ซึ่งประกอบด้วย ตึกสำนักงานออฟฟิศให้เช่า 6 ตึก (รวม 120,000 ตรม.) โรงแรม 3 แห่ง (545 ห้องพัก) คลังสินค้าให้เช่า 4 แห่ง (160,000 ตรม.) และอพาร์ทเมนท์ 4 แห่ง (78 ห้อง)ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่ SC ตั้งเป้าให้ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำคิดเป็น 16% ของ EBITDA ในปี 2567 ทั้งนี้ งบลงทุนปี 2567 ตั้ง
ไว้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท (90% ใช้เพื่อธุรกิจที่อยู่อาศัย และอีก 10% สำหรับธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ)
ตั้งแผนระยะยาวแบบยั่งยืน
เมื่อสิ้นปีที่ 5 ของแผนงาน SC ตั้งเป้าที่จะผลักดันรายได้เติบโตขึ้นอยู่ใกล้เคียง 4.0 หมื่นล้านบาท ((10% ของ 5-year CAGR) และกำไรจะอยู่ราว 3.5 พันล้านบาท (5% ของ 5-year CAGR) ในปี 2571 เปรียบเทียบกับ AP Thailand (AP.BK/AP TB, OP, TP:THB14)* ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าตลาดด้านพรีเซลอยู่ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท รายได้ที่ 4.1 หมื่นล้านบาท และการเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมที่ 7.6 หมื่นล้านบาท เรามองว่า SC ไม่ได้คาดหวังมาเป็นเจ้าตลาดแต่อยากเน้นไปทางการเติบโตธุรกิจแบบยั่งยืน โดยที่ SC อยากจะเป็นบริษัทพัฒนาอสังหา ฯ ที่มีความครบวงจรด้วยธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำคิดเป็น 26% ของ EBITDA ในปี 2571 เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปี 2567 ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (net D/E) เมื่อสิ้นงวด 3Q66 อยู่ที่ 1.36x ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 1.5x.
Valuation & action
จากประมาณการกำไรของตลาดรวม (Bloomberg’s consensus) คาดกำไรปี 2566 ของ SC ชะลอตัวลงเล็กน้อยที่ 4% YoY จากนั้นจะฟื้นตัวราว 6% YoY ในปี 2567 และ 11% YoY ในปี 2568 ขณะที่ คำแนะนำของ Bloomberg’s consensus คือ ซื้อ 6 ราย ถือ 1 ราย และไม่มีคำแนะนำให้ขาย และประเมินราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 4.29 บาท ปัจจุบัน หุ้น SC เทรด PE อยู่ราว 5.6x ต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย -1S.D ด้วยอัตราผลตอบแทนของเงินปันผลเฉลี่ยสูงราว 7.5% ต่อปี ในช่วงปี 2566F-2568F
Risks
ภาวะเศรษฐกิจ ความหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล มาตรการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้นท่ามกลางการยืดหนี้สินในระดับสูงของภาคครัวเรือน การขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำ และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (net gearing) สูง