SET บ่ายนี้ Sideways แต่วอลุ่มบาง กรอบ 1,380 – 1,395 จุด / Top pick บ่าย AOT
Phillip Strategist Comments
- สรุปตลาดเช้า ดัชนี SET Index ภาคเช้าปิดบวก 1.98 จุด (หรือ +0.14%) ไปอยู่ที่ 1,390.58 จุด แรงหนุนนำโดยหุ้น Big Cap เช่นPTT, BH และ CPN ขณะที่แรงกดดันนำโดย CPALL, BDMS และ KBANK ขณะที่ภูมิภาคเอเชียลบสลับบวก โดย ญี่ปุ่นยืนบวกอ่อน ๆ เพียง +0.4%, Kospi +0.4% แต่ตลาดที่ปรับตัวลงนำโดย ฮั่งเส็ง -0.83%
- มุมมองตลาดบ่ายนี้: ทางฝ่ายคาดดัชนี SET Index ภาคบ่ายมีโอกาส Sideways ด้วยปัจจัยสนับสนุนได้แก่ 1) แรงเก็งกำไรในหุ้นบริษัทจดทะเบียนก่อนจะเผยงบงวด 4Q66 และงบปี 66 ในช่วงสัปดาห์หน้า นำโดย PTTGC ที่คาดกำไรงวด 4Q66 ที่ 5.13 พันลบ. (+630%y-y, +259%q-q) และทำให้กำไรพลิกจากขาดทุนในปี 65 ที่ -8.7 พันลบ. สู่กำไรในปี 66 ที่ 1.05 พันลบ. รวมทั้งหุ้นกลุ่ม PTT อื่นที่จะทยอยเผยงบสัปดาห์หน้า 2) แรงหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอย จากเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะได้แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าท่องเที่ยว/พบปะญาติในไทย และ 3) ราคาน้ำมัน WTI ที่ฟื้นตัวยืน 76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่นายกฯ อิสราเอล ปฎิเสธข้อเสนอหยุดยิงจากกลุ่มฮามาส และยังมีคำสั่ง่ให้โจมตีเมืองราฟาห์ ตอนใต้ของฉนวนกาซา เป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงานซึ่งเป็น Big Cap ขณะที่ปัจจัยกดดันยังมีทั้ง 1) จนท.เฟดยังทยอยให้ความเห็นถึงเฟดไม่เร่งรีบลดอัตราดอกเบี้ย เป็นผลให้ Bond Yield สหรัฐปรับตัวขึ้น 2 ปี และ 10 ปี ระดับ 4.45 และ 4.15% ตามลำดับยังกดดันตลาดหุ้น 2) ต่างชาติพลิกขายหุ้นไทยวานนี้ 1.9 พันลบ. ทำให้ภาพรวมต่างชาติยังขายหุ้นไทยกว่า 2.69 หมื่นลบ. YTD และ 3) MSCI Rebalance ที่จะประกาศในต้นสัปดาห์หน้า คาดจะมีการลดการถือครองหุ้นในไทยลง นอกจากนี้ การซื้อขายในตลาดภาคบ่ายทางฝ่ายมองวอลุ่มจะเบาบาง จากจีนปิดทำการตั้งแต่วันนี้ และตลอดทั้งสัปดาห์หน้า จากเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังปิดทำการในวันจันทร์เนื่องจากวันชาติ ทำให้มองต้นสัปดาห์หน้าจะขาด Sentiment จากภูมิภาคเอเชีย
- Top pick: AOT ทางฝ่ายคาดได้ประโยชน์จาก Traffic ช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่จะทำให้มีผู้เดินทางผ่านสนามบินจำนวนมากขึ้น โดย รมว.ท่องเที่ยวได้คาดการณืว่าเทศกาลตรุษจีน 8-16 ก.พ. นี้ จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 2 แสนราย นอกจากนี้ด้านปัจจัยเฉพาะแล้ว การปรับขึ้นค่าเช่าใหม่ของกรมธนารักษ์จะไม่ส่งผลลบต่อ AOT เนื่องจาก AOT มีสัญญาการเช่าไปจนถึงปี 75 ดังนั้นค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายกับทางกรมธนารักษ์ฉบับใหม่จะต้องรอให้สัญญาเดิมสิ้นสุดลงไปก่อน ด้านงบฯ งวด 1Q67 คาดจะเติบโตสู่ 5.08 พันลบ. +1383y-y และ +48%q-q จากการท่องเที่ยวฟื้นตัว กอปรกับการทยอยลดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในสนามบิน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทาง AOT