บล.บัวหลวง:

Bangkok Bank (BBL TB /BBL.BK)

BBL – ตลาดไทยและภูมิภาคจะหนุนการเติบโตของกำไรในปี 2567

เราคาด BBL จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศและในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของสินเชื่อในปี 2567 นอกจากนี้ยังมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 เนื่องจาก BBL มีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มธนาคาร ที่เราให้คำแนะนำ

คาดจะเห็นความต้องการสินเชื่อจำนวนมากทั้งในตลาดไทยและภูมิภาค

BBL ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2567 ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค ฝ่ายวิจัยบัวหลวงของเรา คาดการณ์การเติบโตของ GDP ประเทศไทยปี 2567 อยู่ที่ 3.4% หนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค นอกจากนี้การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนน่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2567 เนื่องจากเราคาดว่าโครงการโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะใหม่ๆ มูลค่าประมาณ 5 แสนล้านบาทที่จะเปิดประมูลในปีนี้ สมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อของ BBL ปี 2567 ของเราอยู่ที่ 4% YoY หนุนจากความต้องการเงินทุนหมุนเวียนสินเชื่อโครงการ และสินเชื่อต่างประเทศ

นอกจากนี้ ธนาคารควรได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยพอร์ตสินเชื่อราว 25% อยู่ในตลาดนอกประเทศไทย (สูงสุดในกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำ) โดยส่วนใหญ่ อยู่ในประเทศอินโดนีเซีย จีน และ สิงคโปร์ (12% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดอยู่ที่ธนาคารเพอร์มาตาในประเทศอินโดนีเซีย) Morgan Stanley คาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี 2567 ที่ 5.1% สำหรับประเทศอินโดนีเซียและ 4.2% สำหรับจีน (เป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าของประเทศไทยที่เราคาด) ดังนั้นธุรกิจในภูมิภาคจึงมีแนวโน้มที่จะเป็น ผู้นำการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในปี 2567

คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่งและ NIM คาดจะขยายตัวในปี 2567

เราเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ฟื้นตัว จะช่วยหนุนคุณภาพสินทรัพย์ของ BBL ซึ่งธนาคารมีการตั้งสำรองจำนวนมากในปี 2566 และอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจาก 283.3% ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2566 ไปเป็น 314.7% ณ สิ้นปี 2566 (สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำ) ดังนั้นเราจึงเชื้อว่าธนาคารอยู่ในสถานะที่จะสร้างการเติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว สมมติฐานการตั้งสำรองปี 2567 ในเชิงอนุรักษ์นิยมของเราอยู่ที่ 1.25% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลง YoY ดังนั้นเราจึงเห็นอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ของเรา

เราเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยของธปท. ที่ 2.5% ในปัจจุบันเป็นจุดสูงสุด และคาดว่าจะยังคงอยู่ที่ระดับดังกล่าวตลอดช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยเราคาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท.จะลดลง 25bps ในครึ่งหลังของปี 2567 มาอยู่ที่ 2.25% ณ สินปี 2567 สมมติฐาน NIM ปี 2567 ของ BBL อยู่ที่ 3.05% เพิ่มขึ้น 10bps YoY เราคาดว่า NIM อยู่ในระดับพีคในไตรมาส 4/66เนื่องจากต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นบ้างในปีนี้ (เนื่องจากเงินฝากประจำระยะยาวครบกำหนด ลูกค้าธนาคารจะกลับไปลงทุนในเงินฝากประจำใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น)

อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนที่สูงและมูลค่าที่ยังถูก

เราคาดการณ์กำไรปี 2567 อยู่ที่ 4.51 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% YoY หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อและ NIM ที่สูงขึ้น PER ปี 2567 ของ BBL อยู่ที่ 6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีอยู่ 2.4 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน)และ PBV ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 0.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีอยู่ 1.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ในขณะที่ ROE ปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ 8.3% ทำให้อัตราส่วน PBV/ROE อยู่ที่ 0.058 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำที่ 0.076 เท่า นอกจากนี้อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนของ BBL อยู่ที่ 19.6% ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำของ BOT ที่ 12% มาก ทั้งนี้เราคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะอยู่ที่ 2.8% สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2566 (น่าจะประกาศภายหลังในเดือน ก.พ. 2567) และ 4.6% ในปี 2567

- Advertisement -